Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

Permaculture ที่ไม่ใช่แค่การปลูกผัก แต่คือการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างเกื้อกูล

เมื่อเราต้องพึ่งพาธรรมชาติในการหาอาหาร เราจึงต้องฟื้นฟูให้ธรรมชาติกลับมาสมดุล

เพอร์มาคัลเจอร์เกิดขึ้นราวปีค.ศ. 1978 จากคำว่า ‘Permanent Agriculture’ หรือ การเกษตรแบบยั่งยืน ดังนั้น เพอร์มาคัลเจอร์จึงเป็นรูปแบบการทำสวนที่เน้นการอยู่ร่วมกันเป็นวงจร มีการพึ่งพาอาศัยกันตามระบบนิเวศธรรมชาติ ซึ่งรวมทั้งพืช สัตว์ มนุษย์ และที่อยู่อาศัยไปจนถึงชุมชนไว้ด้วยกัน

ไม่ว่าจะมีที่อยู่อาศัยแบบไหนก็สามารถทำสวน Permaculture ได้

จากข้างต้นหลายๆ คนอาจจะคิดว่าการทำสวนเพอร์มาคัลเจอร์จำเป็นต้องมีที่ดิน มีบ้านเป็นหลังๆ จึงจะสามารถสร้างความยั่งยืนให้ชีวิตและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ แต่ความจริงแล้วสวนเพอร์มาคัลเจอร์นั้นสามารถประยุกต์ได้กับที่อยู่อาศัยของมนุษย์ได้อย่างหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแฟลต อพาร์ตเม้น คอนโด บ้านเดี่ยว หรือทาวน์โฮมก็ตาม ขอแค่มีพื้นที่ระเบียง ดาดฟ้า หรือพื้นที่เล็กๆ บริเวณบ้าน เพียงเท่านี้ก็สมารถทำสวนเพอร์มาคัลเจอร์ได้แล้ว!

แล้ว Permaculture ช่วย #อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ได้อย่างไร?

การทำเกษตรปัจจุบันแน่นอนว่าต้องมีการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมหาศาล ยาฆ่าแมลง และการใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อให้พืชแตกกิ่งก้านออกดอกออกผลอย่างงดงาม แต่สำหรับเพอร์มาคัลเจอร์แล้วไม่เป็นเช่นนั้น เพราะหัวใจของเพอร์มาคัลเจอร์คือการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เน้นส่งคืนความอุดมสมบูรณ์กลับสู่ธรรมชาติ ดังนั้น เราจึงต้องเลือกพืชพรรณให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการปลูก ดิน อากาศ แสดงแดด หรือการปลูก ‘พืชคู่หู’ (companion plants) ที่จะช่วยแลกเปลี่ยนสารอาหารและป้องกันศัตรูพืชให้กันและกัน รวมถึงอาจเลี้ยงเป็ด ไก่ หรือห่าน ที่จะเป็นนักล่าศัตรูพืชชั้นเยี่ยมให้กับเรา แล้วเอาผลผลิตหรือสิ่งที่ได้จากการเลี้ยงสัตว์มาใช้ปลูกพืชต่อด้วยก็ได้ เช่น การเอาน้ำเสียจากการเลี้ยงปลามารดน้ำต้นไม้ต่อ 

Photo: Shelley Pauls

แม้ไม่มีความหลากหลายมากตามธรรมชาติอย่างดิน และไม้น้ำ แต่เราสามารถรองน้ำฝน และปลูกพืชคลุมดินเพื่อกักเก็บความชื้นให้แก่พืชได้ เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำประปา

นอกจากนี้เพอร์มาคัลเจอร์จะไม่ใช้ปุ๋ยเคมีอย่างเด็ดขาด ซึ่งดินและปุ๋ยสำหรับการบำรุงพืชพรรณนั้นล้วนมาจากซากพืชที่ตายแล้ว และเศษอาหารประเภทผักมาหมักจุลินทรีย์เป็นปุ๋ยหมุนเวียนให้กับพืชต้นใหม่ๆ นั่นเอง

มาถึงตรงนี้แล้วบางคนอาจเกิดคำถามขึ้นว่า ‘แล้วผักจากสวนเพอร์มาคัลเจอร์นั้นต่างจากผักออร์แกนิคอย่างไร’ ถึงจะไม่ได้ใช้สารเคมีตั้งแต่กระบวนการปลูกเหมือนกัน แต่ก็มีข้อแตกต่างอยู่บ้าง นั่นคือ การปลูกผักออร์แกนิคจะเน้นวิธีทางการเกษตรที่ปลอดสารเคมี และเพิ่มผลผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม แต่เพอร์มาคัลเจอร์มุ่งเน้นการเกษตรที่ยั่งยืน ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งให้ระบบต่างๆ เกื้อกูลกันในลักษณะของระบบนิเวศ เช่น การปลูกพืชหลากหลายชนิดเพื่อส่งเสริมกันและกัน รวมถึงการเลี้ยงสัตว์เพื่อควบคุมศัตรูพืชและให้ปุ๋ย ถ้าให้สรุปสั้นๆ ออแกร์นิคจะเน้นตอบโจทย์ตลาด แต่เพอร์มาคัลเจอร์ตอบโจทย์ธรรมชาติมากกว่า 

Photo: Olivier Mary

เพอร์มาคัลเจอร์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับผู้คนที่ต้องการวิถีชีวิตที่ยั่งยืนมากขึ้น เป็นการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน อย่างน้อยๆ ก็ได้ผักปลอดสารพิษสำหรับการบริโภคโดยที่ไม่ต้องให้การดูแลเยอะเหมือนการทำเกษตรประเภทเดียว รวมถึงยังช่วยลดปริมาณขยะเศษอาหาร และใช้ทรัพยากรน้ำน้อยลงอีกด้วย

ที่มา

https://www.baanlaesuan.com/217991/ideas/garden-ideas/how-to-permaculture

https://hhcthailand.com/permaculture-garden/

https://www.permaculturegardens.org/what-is-permaculture

https://beforest.co/blogs/permaculture-vs-organic-vs-natural-farming-how-different-or-similar-are-they/

No tags found for this post.

Credit

Himawari

In a relationship with foods รักน้ำ รักปลา รักหมาแมว