Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

เขื่อนแก่งเสือเต้น ทาง(ไม่)ออก น้ำท่วมลุ่มน้ำยม - EnvironmanEnvironman

เขื่อนแก่งเสือเต้น ทาง(ไม่)ออก น้ำท่วมลุ่มน้ำยม

การสร้าง ‘เขื่อนแก่งเสือเต้น’ ถูกปลุกให้ตื่น หลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม แล้วมันจะแก้ปัญหาได้ จริงหรือไม่

“มันคงไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าอยู่ดีๆ เราก็สร้างเขื่อนแล้วก็เอาน้ำมาท่วมป่า แล้วเราก็ไปช่วยเหลือสัตว์ที่ถูกน้ำท่วม เอาไปไว้อีกที่หนึ่ง”  – สืบ นาคะเสถียร 

คำที่ สืบ นาคะเสถียร พูดไว้ตอนทำภารกิจอพยพสัตว์ป่าจากการสร้างเขื่อนเชี่ยวหลาน โดยมีอีกหนึ่งประโยคทองเป็นคำคู่มาด้วยกันว่า “ผมขอพูดในนามของสัตว์ป่า เพราะพวกเขาพูดไม่ได้” ในระหว่างที่อุทยานแห่งชาติเขาสกและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสงค่อยๆ จมลงไป และสุดท้ายภารกิจช่วยเหลือสัตว์ป่าในครั้งนี้ ไม่ประสบความสำเร็จเพราะสามารถช่วยสัตว์ป่าได้เพียง 15% จากจำนวนทั้งหมด ไม่เพียงแค่ชีวิตสัตว์ที่สูญสิ้นไป แต่เราสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและห้องเรียนขนาดใหญ่ไปด้วย นับว่าเป็นอีกหนึ่งบทเรียนครั้งสำคัญของประวัติศาสตร์สิ่งแวดล้อมไทยที่เราควรเรียนรู้และจดจำ

ทว่าเหตุการณ์นี้กำลังจะฉายภาพซ้ำที่ ตำบลสะเอียบ อำเภอสอง จังหวัดแพร่ และผู้ที่ออกมาต่อต้านก็ไม่ใช่สัตว์ที่ต้องให้ใครมาพูดแทน แต่เป็นชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งเป็นคนตัวเป็นๆ พวกเขายังคงต้องตะโกนร้องเพื่อปกป้องบ้านตัวเองจากการสร้าง เขื่อนแก่งเสือเต้น ฝ่าเสียงเรียกร้องจากคนบางกลุ่มที่บอกให้สร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นเพื่อประโยชน์ของคนหมู่มาก

เขื่อนแก่งเสือเต้นเป็นโครงการที่ชาวบ้านสะเอียบต่อสู้เพื่อคัดค้านมานานกว่า 30 ปี โดยโครงการนี้ได้รับการผลักดันอย่างจริงจังครั้งแรกในรัฐบาล ผล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ แต่ก็ต้องพ่ายให้กับความเข้มแข็งในการต่อต้านของเช้าบ้านในพื้นที่จนทำให้ดำเนินการสร้างเขื่อนไม่สำเร็จ แต่โครงการสร้างเขื่อนนี้ยังไม่สลายไปอย่างถาวร เพราะยังคงมีการ ปลุกผี ขึ้นมาทุกครั้งหลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม โดยอ้างว่าเขื่อนจะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมแถบลุ่มน้ำยมโดยเฉพาะกับจังหวัดแพร่ พะเยา และสุโขทัยได้ 

ล่าสุดในปี 2567 ยังคงมีการปลุกผีแก่งเสือเต้นขึ้นมาใหม่ เป็นชนวนเหตุให้ชาวบ้านออกมารวมกลุ่มและแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยเผาหุ่นคนที่ต้องการจะปัดฝุ่นโครงการนี้ โดยคุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ก็ได้พูดถึงโครงการนี้ว่า “ถึงเวลาที่เราต้องมาพูดเรื่องแก่งเสือเต้นกันอย่างจริงจัง ที่ผ่านมาสร้างอะไรไม่ได้ เพราะยังมีความเห็นที่แตกต่างกันสองฝ่าย ระหว่างพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยพิบัติในขณะเดียวกันก็มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมหรืออะไรต่างๆ” 

แต่เขื่อนที่ว่านี้มันจะเป็นประโยชน์แก่คนหมู่มากจริงๆ  หรือเป็นเพียงผลกำไรของคนเฉพาะกลุ่มกันแน่

ทางเดินที่ผิดทางของการแก้ปัญหาน้ำท่วมลุ่มน้ำยม

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่ายังมีคนบางส่วนที่คิดว่า ถ้ามันสามารถแก้ปัญหาให้คนหมู่มากได้ เราก็ควรจะสร้าง ถึงแม้จะอ้างเช่นนั้น ทว่าโดยเนื้อแท้ของเขื่อนแก่งเสือเต้นเอง มันไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมในลุ่มแม่น้ำยมได้อย่างตรงจุด 

“ต่อให้มีเขื่อนแก่งเสือเต้น สุโขทัยก็จะน้ำท่วมอยู่ดี” คำกล่าวของอาจารย์สิตางศุ์ พิลัยหล้า อาจารย์ประจำภาคทรัพยากรน้ำ คณะวิศวะ มหาวิทยาลัยเกษตรฯ และหลังจากนั้นอาจารย์ก็ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า น้ำที่อยู่ในแม่น้ำยมหรือที่เรียกกันว่าน้ำท่ามากกว่า 3,000 ล้านลูกบากศ์เมตร จากทั้งหมด 19 ลำน้ำสาขา แต่ที่ตั้งของเขื่อนแก่งเสีอเต้นสามารถกักน้ำที่อยู่บริเวณเหนือเขื่อนได้ราว 900 ล้านลูกบากศ์เมตรเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าปริมาณน้ำบริเวณใต้เขื่อนที่แก่งเสือเต้นไม่สามารถกักเก็บได้ จะยังคงไหลไปท่วมสุโขทัยและจังหวัดอื่นๆ ได้อยู่ดี 

นอกจากตำแหน่งการสร้างเขื่อนที่ไม่ฟังก์ชั่นกับการแก้ปัญหาแล้ว ในปัจจุบันนี้สร้างเขื่อนใหม่ขึ้นอีก ไม่ใช่ทางเลือกทีดีในการบริหารจัดการน้ำ เพราะจะต้องแลกมาด้วย ‘พื้นที่ป่า’ จำนวนมหาศาล ซึ่งขัดกับนโยบายการมีป่า 40% ของรัฐ หรือถ้าหากว่าจะไปใช้ พื้นที่เมือง ในการสร้าง รัฐมีมาตรการให้การเยียวยาที่เหมาะสมให้แก่ประชาชนที่ต้องเสียประโยชน์หรือไม่ แต่ไม่ว่าเลือกทางไหนก็คล้ายว่าจะไม่มีบทสรุปที่เป็นผลบวก เพราะโดยสรุปแล้วประเทศไทยในตอนนี้ไม่มีพื้นที่มากพอที่จะสร้างเขื่อนขนาดใหญ่อีกต่อไปแล้ว ทางที่ดีนั้นเราควรจะหาวิธีใช้เขื่อนหรือสิ่งต่างๆ ที่ได้สร้างไว้ ให้เต็มศักยภาพของมัน รวมถึงเปิดใจรับเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้บริหารจัดการน้ำในประเทศด้วย

ถ้ามีเขื่อนแก่งเสือเต้น เราจะเสียมากกว่าแค่พื้นที่ป่า

จากการสัมภาษณ์คุณอาทิตย์ ขวัญยืน ลูกหลานชาวบ้านสะเอียบและหนึ่งในผู้คัดค้านการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น เขาก็ได้เล่าว่าหากว่าโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นได้รับไฟเขียวให้ดำเนินการสร้าง เริ่มแรกสิ่งที่เราจะต้องเสียไปเลยก็คือ บ้าน ของชาวบ้าน 4 หมู่บ้านหลักๆ นั่นก็คือ ดอนชัย ดอนแก้ว ดอนชัยสักทอง และแม่เต้น ประชาชนหลักพันคนจะต้องพลัดจากบ้านที่พวกเขาเติบโตมา พร้อมกับวิถีชีวิตของพวกเขาที่ถูกพรากไป 

เราจะเสียพื้นที่เกือบสามหมื่นไร่ ซึ่งต้นไม้ส่วนมากในพื้นที่นั้น เป็น ‘ไม้สักทอง’ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีมูลค่าทางเศรฐกิจสูง ยิ่งกับต้นไม้ที่มีอายุหลายทศวรรษด้วยแล้ว ยิ่งประเมินค่าได้ยาก แต่เราจะเสียสิ่งนี้ให้กับผู้ที่ได้รับสัมปทานในการตัดไม้ ก่อนที่ป่าสักทองแห่งนี้จะกลายเป็นบ่อน้ำขนาดยักษ์ และยังไม่รวมถึงทรัพยากรสัตว์ป่าที่อยู่ในป่าล้านไร่นั้นด้วย

เราจะเสียรายได้หลักพันล้านบาทจากการทำลายแหล่งจากการทำลายแหล่งท่องเที่ยว และแหล่งผลิตสุราชุมชนที่สร้างเงินให้ประเทศด้วยภาษีสรรพสามิต หมายความถึงการเสียแหล่งงาน แหล่งอาชีพของชาวบ้านในพื้นที่ด้วย

ความสูญเสียทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่เราทุกคนจะต้องเสียไป เพื่อแลกกับกำไรของคนกลุ่มเดียว เราทุกคน จะต้องเสีย แต่จะมีใครบ้างที่ได้

สุดท้าย แม้ว่าตอนนี้โครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นจะยังไม่ถูกอนุมัติ และไม่มีทีท่าว่าจะเกิดขึ้นได้จริง ทว่าการที่มันถูกหยิบยกขึ้นมาพูดใหม่อยู่เป็นระยะๆ ทำให้เราไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ว่ามันจะไม่ถูกสร้าง และยังคงต้องเฝ้าดูต่อไป

อ้างอิง

https://www.sarakadee.com/blog/oneton/?p=1967

https://thaipublica.org/2012/12/kaeng-sua-ten-dam/

https://www.seub.or.th/bloging/news/2023-284/

https://bit.ly/3NNi0fz (ThaiPBS)

https://tdri.or.th/wp-content/uploads/2013/01/n36.pdf

การสัมภาษณ์

คุณอาทิตย์ ขวัญยืน ผู้คัดค้านการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น

ผศ.ดร.สิตางศุ์ พิลัยหล้า อาจารย์ประจำภาควิชาทรัพยากรน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร​์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

Credit

22°C

Part-time Writer, Full-Time Lover สาวสระบุรี มีลูกเป็นต้นไม้ ไม่ชอบเมืองใหญ่ อยากไปสำรวจโลก