Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

กอดคนที่เรารัก ลดความเจ็บปวด เครียด ซึมเศร้า

หยุดยาวนี้กลับบ้านไปกอดคนที่เรารัก ไปกอดหมา กอดแมวกันเถอะ

หยุดยาวนี้กลับบ้านไปกอดคนที่เรารัก ไปกอดหมา กอดแมวกันเถอะ !

การทบทวนงานวิทยาศาสตร์ครั้งใหญ่ยืนยัน การสัมผัสร่างกายสามารถช่วยลดความเจ็บปวด ลดอาการซึมเศร้า ความเครียด และลดความวิตกกังวลได้ มันได้ผลเสมอไม่ว่าจะกอดคน สัตว์เลี้ยง ตุ๊กตา หรือสิ่งของ และมันได้ผลเป็นพิเศษกับเด็กทารกตัวเล็ก ๆ

นักจิตวิทยาบำบัด Virginia Satir เคยพูดเอาไว้ว่า ‘เราต้องการกอดวันละ 4 ครั้งเพื่อความอยู่รอด กอดวันละ 8 ครั้งเพื่อการทำนุบำรุง และกอดวันละ 12 ครั้งเพื่อการเติบโต’ ขณะเดียวกันเราก็ได้ยินเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับข้อดีของการสัมผัสซึ่งกันและกัน แต่ไม่เคยมีใครรวบรวมผลลัพธ์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน

“มีการกล่าวอ้างมากมายว่าการสัมผัสเป็นสิ่งที่ดี การสัมผัสนั้นดีต่อสุขภาพ การสัมผัสเป็นที่สิ่งที่เราทุกคนต้องการ” Rebecca Boehme นักประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัย Linkoping ในสวีเดน กล่าว “แต่จริง ๆ แล้วไม่มีใครเคยมองมันจากมุมมองที่กว้างไกลขนาดนี้”

ทีมวิจัยได้ทำการศึกษาและทบทวนงานก่อนหน้ามากกว่า 21 ฉบับซึ่งสำรวจผู้คนทั้งเด็ก ทารก และผู้ใหญ่กว่า 13,000 คนทั่วโลก ได้เผยให้เห็นว่าการสัมผัสมีประโยชน์ต่อทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพกาย มันส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ลดความเจ็บปวด ความท้อแท้ ความหดหู่ และความวิตกกังวล

ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนซึ่งศึกษาผู้สุงอายุที่เป็นโรคสมองเสื่อมชี้ให้เห็นว่า การนวดเบา ๆ 20 นาทีทุกวันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ช่วยลดระดับความเครียดในเลือดและลดความก้าวร้าวลงได้ ขณะเดียวกัน คนหมุ่นสาวที่มีสุขภาพดีซึ่งสัมผัสหุ่นยนต์ที่มีรูปร่างเป็นแมวน้ำ ก็มีความสุขมากกว่าและเจ็บปวดน้อยกว่าวัยรุ่นที่อ่านคอลัม ‘ดูดวงประจำวัน’

“งานของเราแสดงให้เห็นว่าการสัมผัสเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลดความเจ็บปวด อาการซึมเศร้า และความวิตกังวลในผู้ใหญ่และเด็ก รวมถึงการเพิ่มน้ำหนักในทารกแรกเกิด” รายงานระบุ

ในบรรดาผลลัพธ์ทั้งหมด ทีมงานระบุว่าข้อที่น่าสนใจที่สุดคือ ผลกระทบเชิงบวกที่เกิดขึ้นมากเป็นพิเศษกับเด็กทารกที่ได้รับการสัมผัสจากพ่อแม่ สิ่งนี้ช่วยกระตุ้นให้เด็กทารกอารมณ์ดี มีน้ำหนักตามเกณฑ์ปกติ และดูเหมือนว่าจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้วยเช่นกัน

ประเภทของการสัมผัสและระยะเวลาก็ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องกอดหรือจับมือใครนาน แค่เพียงสัมผัสร่างกายก็ได้รับประโยชน์แล้ว แต่สำหรับผู้ใหญ่หากยิ่งมีความถี่เยอะก็จะสัมพันธ์กับประโยชน์ที่มากขึ้น

รายงานยังระบุเพิ่มเติมอีกว่าการสัมผัสศีรษะยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าการสัมผัสส่วนอื่น ๆ ของร่างกายอีกด้วย และสิ่งสำคัญก็คือผลลัพธ์เชิงบวกนั้นเกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยง ผ้าห่ม ตุ๊กตา หรือแม้แต่อะไรก็ตามที่สำคัญกับคนคนนั้นด้วย แม้ว่าสิ่งที่สัมผัสจะไม่ใช่มนุษย์ก็ตาม

“ซึ่งหมายความว่าเราจำเป็นต้องทำการวิจัยเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับศักยภาพการสัมผัสผ้าห่มหรือหุ่นยนต์ เพื่อปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของผุ้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่จำกัดการสัมผัสเช่น การระบาดใหญ่ของโควิด-19 เมื่อเร็ว ๆ นี้” ดร. Helena Hartmann ผู้งานวิจัย กล่าว

ผลลัพธ์ไม่ได้บอกว่าคุณสามารถไปสัมผัสใครก็ได้ที่คุณต้องการ แต่งานวิจัยได้เน้นย้ำว่าการสัมผัสจะเกิดประโยชน์สูงสุดก็ต่อเมื่อทั้งสองคน (หรือคุณกับสิ่งของนั้น ๆ) ผูกพันกัน สนิทกัน ไว้ใจกัน และรักกัน

แต่ถ้าคุณกำลังรู้สึกเศร้าหรือท้อแท้จนไม่รู้จะทำอย่างไร นักวิทยาศาสตร์ได้ให้ประโยคง่าย ๆ และสั้น ๆ ไว้ว่า ‘กอดกันเถอะ’ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น

อ้างอิง

Credit

Environman

Environman คือหนึ่งในสื่อออนไลน์ที่นำเสนอปัญหาสิ่งแวดล้อม เป้าหมายคืออยากทำให้โลกใบนี้ดีขึ้น ไม่เฉพาะการเป็นสังคมออนไลน์ที่แข็งแกร่ง แต่หวังให้ความรู้นำไปสู่การลงมือทำเพื่อเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้นได้จริง