“ได้กินอาหารข้างนอกอร่อย ๆ พร้อมกับดูวิวสวย ๆ ไปด้วย นี่แหละคือรสชาติของการตั้งแคมป์”
นาเดชิโกะ คากามิฮาระ Yuru Camp ซีซัน 1 ตอนที่ 5
ชีวิตเราทุกวันนี้ถูกเร่งเร้าให้ดำเนินไปอย่างเร่งรีบจนบางทีเราก็ไม่รู้ตัวว่าเราอยุ่ในจุดที่ไม่คุ้นชินกับความเงียบสงบอีกแล้ว โดยเฉพาะถ้าเราอยู่ในกรุงเทพฯ ที่ต้องรีบตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไปเรียน/ทำงานให้ทัน แล้วไหนจะต้องมาแย่งกันขึ้นรถไฟฟ้ากับคนมหาศาลตอนเย็นอีก เราอาจลืมไปแล้วว่าความสุขที่เรียบง่ายจากการใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์มันเป็นยังไง
ถึงจะอยากพัก อยากหยุดสัก 10 เดือนออกไปเที่ยวโลก ไปปีนเขา ดูนก ชมปะการังแค่ไหน ภาระความรับผิดชอบก็รั้งเราไว้ไม่ให้สละเวลาที่แสนน้อยนิดของเราออกไปทำอะไรเพื่อหาความสุขให้ตัวเอง ไม่เป็นไร ถึงตอนนี้ทุกคนอาจจะยังพักผ่อนไม่ได้ อย่างน้อยก็ดูอนิเมะฮีลใจที่ดูแล้วโคตรผ่อนคลายอย่าง Yuru Camp ก็ยังดี
Yuru Camp หรือชื่อไทย แคมป์สบายสไตล์สาว ๆ เป็นอนิเมะแนวตั้งแคมป์ของญี่ปุ่นที่ดัดแปลงมาจากมังงะที่เขียนโดย Afro ปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 3 ซีซั่น ออกฉายครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคม ปี 2018 อนิเมะเรื่องนี้ดำเนินไปด้วยชีวิตของ ชิมะ ริน สาวน้อยรักสันโดษที่ชอบการโซโล่แคมป์ปิ้งเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ว่าจะในเมืองมิโนบุที่ตัวเองอยู่หรือฮากาโนะที่ห่างออกไปเกือบ 150 กม. ชิมะรินก็ไม่หวั่น ไปได้หมด ทั้งปั่นจักรยาน และขี่สกู๊ตเตอร์ นอกจากนั้น ในเรื่องยังเล่าถึงการผจญภัยของแก๊งเด็กสาวมัธยมปลายชมรมแคมป์ปิ้งที่ประกอบด้วยสมาชิก 4 คน อย่าง โอกาคิ อินุยามะ นาเดชิโกะ และไซโตะอีกด้วย
ธรรมชาติในญี่ปุ่น
ด้วยความที่โลเคชั่นของเรื่องอยู่ที่เมืองมิโนบุ จังหวัดยามานาชิ ซึ่งเป็นที่ตั้งของซิกเนเจอร์สุดฮิตของญี่ปุ่นอย่าง ภูเขาไฟฟูจิ ทำให้เราได้เห็นฉากสวยงามรอบ ๆ ภูเขาไฟได้ไม่อั้น ตัวละครในเรื่องก็ชอบออกไปตั้งแคมป์ในจุดที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นและตกหลังภูเขาไฟฟูจิอย่างชัดเจน โมเมนต์ที่แสงอาทิตย์แรกของวันกระทบผืนน้ำ เงาของยอดภูเขาสะท้อนกลับหัวในทะเลสาบ เป็นฉากที่ดูแล้วอิ่มเอิบใจเหมือนได้ไปเห็นด้วยตาตัวเอง เรื่องนี้การันตีภาพสวยอลังการทุกซีน
Yuru Camp ทำให้เราได้เห็นว่าการได้หยุดพักและใช้ชีวิตให้ช้าลงมันผ่อนคลายแค่ไหน ธรรมชาติในเรื่องถูกวาดให้ออกมาสวยสบายตา ไร้ซึ่งความวุ่นวาย อีกทั้งยิ่งใหญ่และทรงพลัง ทุกครั้งที่เหล่าตัวละครออกไปตั้งแคมป์ พวกเขาไม่ได้ได้แค่สงบสบายใจ แต่ยังได้ประสบการณ์น่าจดจำที่ธรรมชาติมอบให้ในแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่อีกด้วย
ความเป็นญี่ปุ่นในเรื่องก็ถูกนำเสนอออกมาให้ดูเรียบง่ายและสงบ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อย่างวัด ศาลเจ้า หรือแม้กระทั่งร้านอาหาร ก็ยังเห็นถึงความเคร่งขรึม สง่างามตามแบบเฉพาะของวัฒนธรรมญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังมีการแทรกความเชื่อ ตำนาน ค่านิยมมาให้เห็นเป็นระยะ ๆ อีกด้วย
รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในชีวิตแบบญี่ปุ่น
แม้จะไม่ได้นั่งบอกกันตรง ๆ แต่เรื่องนี้ยังสอนให้เราเลือกซื้อ เลือกใช้ของอย่างชาญฉลาด เพราะอุปกรณ์สำหรับออกไปตั้งแคมป์ก็ออกจะราคาแรงเหมือนกันสำหรับเด็กมัธยมปลาย สาว ๆ ในเรื่องจึงเลือกซื้อของใช้คุณภาพที่คุ้มค่าเงินในราคาที่รับไหว เพราะลงทุนทำงานพาร์ทไทม์เก็บตังซื้อของเองกันเป็นเดือน ๆ ทุกคนเลยใช้ของแต่ละชิ้นอย่างรู้คุณค่าและทะนุถนอม อีกทั้งยังใช้ซ้ำ ๆ ไม่ได้ซื้อของใหม่อีกด้วย อย่างตะแกรงเหล็กของรินที่ซื้อตอนซีซัน 1 ซีซันต่อมารินก็ยังใช้อันเดิมอยู่
นอกจากการเลือกซื้อของแล้ว เรื่องนี้ยังสอนวิธีการออกไปตั้งแคมป์คนเดียวยังไงให้รอด และ Life Hack อีกหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกที่ตั้งแคมป์ให้ปลอดภัย การเลือกซื้ออุปกรณ์ให้เหมาะกับฤดูกาลและสภาพอากาศ การจุดกองไฟให้ไฟติดไว รวมถึงวิธีกางเต็นท์ยังไงไม่ให้เต็นท์พัง ซึ่งทริคพวกนี้ก็ใช้ได้จริงและมีประโยชน์มาก
เรื่องนี้ยังสอนให้เรารู้จักรักษาสิ่งของด้วยนะ ตัวละครในเรื่องเลือกที่จะซ่อมของที่พังมากกว่าจะทิ้ง ของที่ซื้อมาแล้วถึงไม่ดีแบบที่หวังก็ไม่ได้เอาไปโละขายของเก่า กลับพยายามปรับแต่ง เสริมให้มันแข็งแรง ดูดีขึ้นแทน อย่างในภาพข้างล่างคือโครงเต็นท์หัก แต่แทนที่จะทิ้งเต็นท์ไปเลย ก็เอามาปลอกมาสวมเชื่อมโครงที่หักแทน ทำให้ต่อชีวิตเต็นท์ราคาประหยัดไปได้อีกวัน ซีนนี้ต้องขอบคุณไซโตะเลย!
ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ถูกหล่อหลอมอยู่ในวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นจริง ๆ และมันก็แสดงออกมาให้เห็นในอนิเมะเรื่องนี้ด้วย เรื่องแอบสอนว่าการไปตั้งแคมป์นอกจากที่เราจะได้รับความสุขจากธรรมชาติแล้ว เราควรดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของสถานที่ที่เราไปด้วย ไม่ก่อกองไฟบนพื้นที่ที่ไม่อนุญาตให้ก่อ รวมถึงรักษาความสะอาด ทิ้งขยะให้เป็นที่ เพื่อที่คนที่มาตั้งแคมป์ต่อจากเราจะได้ประสบการณ์ที่ดีแบบที่เราได้รับ
ใครดูอนิเมะเรื่องนี้แล้วไม่หิวบอกเลยว่าจิตใจแข็งแกร่งสุด ๆ เพราะภาพอาหารเขาน่ากินมาก บางคอมเมนต์บอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่อนิเมะตั้งแคมป์ แต่เป็นอนิเมะทำอาหาร ส่วนใครเห็นด้วยไม่เห็นด้วยยังไงต้องไปดูเอง
ความสุขที่แสนเรียบง่าย
การใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์แบบญี่ปุ่นจะขาดตัวละครเอกอย่างจักรยานแม่บ้านไปได้ยังไง! ในเรื่องเราก็จะได้เห็นทั้งรินและนาเดชิโกะปั่นจักรยานในหลาย ๆ ฉาก ไม่ว่าจะในหมู่บ้านหรือปั่นไปตั้งแคมป์ (ถึงแม้รินจะชอบขี่สกู๊ตเตอร์มากกว่า) แม้แต่เรื่องยานพาหนะในเรื่อง ผู้สร้างก็ยังให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม มีฉากที่ตัวละครใช้รถยนต์แค่ตอนที่จำเป็น เน้นขี่จักรยานและสกู๊ตเตอร์มากกว่า นอกจากนั้นยังใช้ขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าหรือเดินเท้าเป็นประจำอีกด้วย
การไปแคมป์ปิ้งนอกจากจะทำให้เราได้พักผ่อนและใกล้ชิดกับธรรมชาติแล้วยังช่วยกระชับมิตรภาพด้วย อย่างรินที่ปกติชอบเที่ยวคนเดียว ก็ยอมเปิดใจไปแคมป์ปิ้งกับเพื่อนคนอื่น ๆ หรือไซโตะที่เป็นคนขี้หนาวยังยอมไปนอนค้างคืนกับเพื่อนในชมรมในช่วงที่หนาวสุด ๆ ของปีด้วย บางทีเรื่องนี้อาจอยากบอกเราอ้อม ๆ ว่า ธรรมชาติเนี่ยจริง ๆ แล้วก็คือแม่สื่อดี ๆ นี่เอง ที่ทำให้เราอยากแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสุขกับคนที่เราห่วงใย ดังนั้นแล้ว รักใคร ต้องชวนเขาเข้าป่า!
ใครดูอนิเมะเรื่องนี้แล้วอยากเก็บกระเป๋าออกไปตั้งแคมป์ เราคือเพื่อนกัน บางทีเราก็ควรหาเวลาหยุดพักให้ธรรมชาติเยียวยาเราบ้าง ใช้ชีวิตให้สโลว์ลงกว่านี้นิดนึง นอกจากจะช่วยให้ใจเราสงบลง ยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนจากกิจวัตรประจำวันที่เร่งรีบลงด้วยนะ แต่การสโลว์ไลฟ์ก็ต้องมาพร้อมกับการวางแผนให้ดี ๆ (อย่างการตื่นเช้าแล้วมีเวลาเดินหรือนั่งขนส่งสาธารณะแทนการนั่งวิน ขับรถไปเอง) แล้วหวังว่าทุกคนหลังจากดูอนิเมะเรื่องนี้จบจะได้มีเวลาออกไปแคมป์ปิ้งบ้างนะ พักผ่อน เทคแคร์ และอย่าลืมสโลว์ไลฟ์ สโลว์ใช้
ป.ล. เรื่องนี้ดูฟรีแบบมีซับไทยได้ใน Youtube
ที่มารูปภาพ Youtube: Ani-One Thailand, Ani-One Asia