วังการี มาไท เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1940 ในเมืองเนียริ (Nyeri) ประเทศเคนยา สมัยที่ยังอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิอังกฤษ ถึงแม้จะเกิดมาในครอบครัวชาวนาที่ยากจน แต่พ่อแม่ก็ผลักดันเต็มที่ให้เธอได้ร่ำเรียนหนังสือ ถึงแม้ในยุคนั้น ผู้หญิงจะไม่ได้รับโอกาสทางการศึกษามากนัก
มาไทเป็นเด็กที่ฉลาดและขยันขันแข็ง ทำให้ผลการเรียนของเธอโดดเด่นเป็นที่จับตามอง ในปี 1960 เธอได้รับทุนให้ไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยในอเมริกาและจบการศึกษาทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในสาขาวิชาชีววิทยา ในช่วงที่เธอเรียนปริญญาโทอยู่นี่เองที่เธอได้เห็นขบวนการนักสิ่งแวดล้อมออกมาเรียกร้องให้แก้ปัญหามลพิษในอากาศ ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นครั้งแรกที่ทำให้เธอได้ตระหนักถึงความสำคัญของการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม หลังจากเรียนจบปริญญาโทที่อเมริกา มาไทกลับมาบ้านเกิดที่เคนยาและเรียนจบปริญญาเอกด้านกายวิภาคสัตว์ (Veterinary Anatomy) ทำให้เธอกลายเป็นสตรีแอฟริกันกลางคนแรกที่เรียนจบการศึกษาระดับนี้
ในระหว่างที่เธอทำงานเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยอยู่นั้น เธอประสบทั้งปัญหาการกีดกันทางเพศและปัญหาสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน ผู้หญิงไม่มีสิทธิ์มีเสียงทางการเมือง และไม่สามารถเรียกร้องความยุติธรรมใด ๆ ได้ ซึ่งปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าก็เป็นปัญหาใหญ่ที่คุกคามชีวิตความเป็นอยู่ของผู้หญิงในเคนยา และมันยังตอกย้ำประเด็นความเหลื่อมล้ำทางเพศมากยิ่งขึ้นไปอีก
มาไทเล็งเห็นถึงปัญหานี้ จึงได้ก่อตั้ง The Green Belt Movement (ขบวนการแนวพฤกษ์สีเขียว) ด้วยความร่วมแรงร่วมใจจากผู้หญิงเคนยาทั่วประเทศ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ปัญหาความยากจน ความไม่เทียมทางเพศไปพร้อมกับการพิทักษ์ไว้ซึ่งธรรมชาติ
กิจกรรมหลักที่พวกเธอทำนั้นคือการปลูกต้นไม้เพื่อให้เพียงพอต่อการนำไปผลิตเป็นเชื้อเพลิงและลดการถางป่าลง เป้าหมายของขบวนการคือการปลูกต้นไม้ให้ได้ทั้งหมด 30 ล้านต้น มาไทสามารถปลุกระดมผู้หญิงให้ออกมาร่วมกิจกรรมได้ถึง 30,000 คน ขบวนการนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากและกลายเป็นแบบอย่างให้ประเทศอื่น ๆ พากันทำตาม
อย่างไรก็ดี ความตั้งใจดีของมาไทกลับกลายเป็นการท้าทายอำนาจของเหล่าผู้นำที่ไม่ได้สนใจสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ของประชาชน มาไทถูกจับหลายครั้งในรัฐบาลประธานาธิบดีเผด็จการ Daniel arap Moi จากการออกมาประท้วงรัฐบาลเรื่องการสนับสนุนการพัฒนาโครงการบ้านและตึกหรูกลางสวนสาธารณะอูฮูรู ซึ่งเป็นสวนสาธารณะสำคัญในเมืองหลวงของเคนยา
การประท้วงของมาไทในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากนานาประเทศ จนในที่สุดโครงการก็ถูกยกเลิกไป และเป็นอีกครั้งที่มาไทประสบความสำเร็จในการต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมจากการแสดงพลังของเธอออกมา แต่อย่างไรก็ดี
“คงไม่มีใครมาหาเรื่องฉันหรอกถ้าสิ่งที่ฉันทำคือแค่การบอกให้ผู้หญิงออกมาปลูกต้นไม้”
ในปีต่อมา เธอก็ได้รับบาดเจ็บจากการออกไปประท้วงเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง สำหรับมาไทแล้ว ปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเมืองเป็นเรื่องที่แยกจากกันไม่ได้ รากของหลาย ๆ ปัญหาในสังคมล้วนพันกันยุ่งเหยิง ทำให้เธอมองว่าการจะแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ออกมาเรียกร้องปัญหาอื่น ๆ ด้วย โดยเฉพาะเรื่องการเมือง
มาไทต่อสู้และเรียกร้องตลอดช่วงรัฐบาลของ Moi จนเมื่อรัฐบาลชุดนี้ยุบไป เธอก็ได้ลงสมัครแข่งขันในตำแหน่งประธานาธิบดี ถึงแม้จะต้องผิดหวังไปแต่ในที่สุดเธอก็ได้ขึ้นมาทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในปี 2002 โดยได้คะแนนเสียงถึงร้อยละ 98 และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่า จากประธานาธิบดี Mwai Kibabi ในปี 2003
คุณูปการที่เธอทำตลอดมาทั้งด้านการเรียกร้องเพื่อความเท่าเทียม ประชาธิปไตย การส่งเสริมการพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และสันติภาพ ทำให้คณะกรรมการพิจารณาเห็นสมควรที่จะมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพให้เธอในปี 2004
ตลอดช่วงชีวิตของเธอที่ผ่านมา มาไททั้งต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมและโรคร้ายไปในเวลาเดียวกัน เธอเข้าออกโรงพยาบาลอย่างเงียบเชียบ แทบไม่มีใครรับรู้เรื่องอาการป่วยของเธอจนสัปดาห์สุดท้ายก่อนที่เธอจะสิ้นใจ ข่าวอาการป่วยของเธอถึงได้เผยแพร่ออกไป และแล้วคืนวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2011 มาไทก็ได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งรังไข่ เธอใช้ชีวิตตลอด 71 ปีที่ผ่านมาอย่างเต็มที่และกล้าหาญ และไม่ปล่อยให้อุปสรรคใด ๆ ในชีวิตขัดขวางความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศบ้านเกิดของเธอให้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนจะสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างเท่าเทียม
นับตั้งแต่วันที่ The Green Belt Movement ได้ก่อตั้งขึ้นจนถึงวันนี้ มีต้นไม้กว่า 51 ล้านต้นถูกปลูกบนผืนดินเคนยาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเด็กหญิง สตรี และผู้คนที่เห็นความสำคัญของธรรมชาติ Green Belt Movement ไม่เพียงแต่มุ่งประสงค์ที่จะสงวนไว้ซึ่งระบบนิเวศอันเป็นแหล่งอาหารและบ้านของชาวเคนยา แต่ยังต้องการเป็นพื้นที่ปลอดภัยเพื่อผู้หญิงยากไร้ และคนทุกคนที่ต้องเผชิญกับปัญหาความเหลื่อมล้ำ
คุณูปการที่วังการี มาไท สตรีชาวเคนยาได้ผู้อุทิศตัวสรรสร้างขึ้นมาจะยังคงสร้างประโยชน์ต่อรุ่นลูกรุ่นหลาน และยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงทั่วโลกได้มองเห็นถึงศักยภาพที่ตัวเองมีและออกมาช่วยกันต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงในแบบที่เราอยากเห็นบนโลกใบนี้
ที่มา
– Greenbeltmovement.org
– Nobelprize.org
– Wangarimaathai.org
– Biography.com
ภาพ
– The Green Belt Movement
– Womanaid
– Wangarimaathai
– Prabook