มนุษย์กับต้นไม้ สองสิ่งที่ตัดกันไม่ขาด เมื่อสิ่งมีชีวิตที่แทบดูไม่มีอะไรเหมือนกันเลย กลับมีความเชื่อมโยงมากกว่าที่คิด ทั้งส่งผลต่อร่างกาย จิตใจ และแม้แต่สังคม หรือบางคนก็อาจมีเพื่อนสนิทเป็นต้นไม้แบบ Happy Tree Friend ก็ได้นะ!
ตลอดทั้งทางประวัติศาสตร์และทางชีววิทยา มนุษย์กับต้นไม้มีการปรับตัวด้วยกันเพื่ออยู่ร่วมกันมาตลอด มนุษย์เรียนรู้การเพาะปลูก สนับสนุนการเจริญเติบโต และเก็บเกี่ยวผลผลิตจากต้นไม ซึ่งช่วยค้ำจุนสังคมทั้งสองให้ยั่งยืนไปในทางของตัวเอง
แต่แล้วเมื่อเราเริ่มสร้างเมือง ต้นไม้จำนวนมากก็ถูกตัดทิ้งเพื่อใช้ประโยชน์อย่างอื่น ทำให้คนส่วนใหญ่คิดกันไปว่าต้นไม้ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าสิ่งที่ให้ร่มเงา แต่งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากชี้ให้เห็นว่า อันที่จริงแล้วต้นไม้ช่วยควบคุมคุณภาพอากาศ เสียง ฝุ่น ความร้อน ความร้อน และมลพิษให้กับพื้นที่รอบข้าง
ยิ่งไปกว่านั้น “ผลกระทบของต้นไม้ต่อมนุษย์ยังได้รับการศึกษาจากมุมมองทางสรีรวิทยาเช่น ต้นไม้ช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ และบรรเทาความเครียดทางจิตใจ” รายงานปี 2024 ที่เผยแพร่บนวารสาร People and Nature ระบุ
นอกจากเป็นสินค้าและบริการทางวัตถุแล้ว ต้นไม้ยังเป็นยิ่งกว่า ‘เพื่อน’ สำหรับบางคน และนี่คือ 3 ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับต้นไม้ ผ่านงานวิจัยที่ชื่อว่า Do you have a tree friend?—Human–tree relationships in Finland ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเราเชื่อมโยงกับต้นไม้อย่างตัดไม่ขาด

◦ Admiring relationships (ชื่นชม)
ผู้เข้าร่วมการศึกษาหลายคนบอกว่าต้นไม้บางต้นโดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่หรือมีอายุนั้นมี ‘บุคลิก’ ที่น่าชื่นชมราวกับผู้อาวุโสของเมือง ต้นไม้หลายต้นอยู่อย่างสง่างามมาอย่างยาวนาน และนั่นทำให้หลายคนประทับใจ

◦ Nurturing relationships (ดูแล)
เราหลายคนมักเลี้ยงต้นไม้เล็ก ๆ ในห้อง ในระเบียง หรือหากมีพื้นที่ก็อาจจัดเป็นสวนของตัวเองขึ้น สิ่งนี้ทำให้หลายคนมองต้นไม้เป็นเหมือน ‘ลูก’ หรือสิ่งที่ต้องให้ความสนใจ ดูแล และมีการลงทุนลงแรงเพื่อให้ ‘เด็ก ๆ’ เติบโต

◦ Nostalgic relationships (ความทรงจำ)
ต้นไม้บางต้นก็ทำให้ความทรงจำในอดีตผุดขึ้นมา ทำให้หลายคนยังพยายามเก็บรักษาต้นไม้เหล่านี้ซึ่งมีทั้งความผูกพัน ความทรงจำ และคุณค่า โดยไม่มีสิ่งใดมาแทนได้
คน + ต้นไม้ = มิตรภาพ
ผลลัพธ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าต้นไม้ไม่ใช่แค่สิ่งแวดล้อมหรือสิ่งของ แต่เป็นอะไรที่มากกว่านั้นที่ผู้คนสามารถมีความสัมพันธ์เชิงอารมณ์ได้เหมือนสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เช่นสัตว์เลี้ยง ดังนั้นต้นไม้จึงสามารถมีประโยชน์ต่อสุขภาวะทางอารมณ์ของมนุษย์ได้ไม่แพ้สิ่งอื่น
“การอยู่ร่วมกันเช่นนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นมิตรภาพในแง่ที่อริสโตเติลได้อธิบายแนวคิดมิตรภาพ ‘ฟิเลีย’ ไว้ในหนังสือ Nicomachean Ethics ของเขา” ทีมวิจัยเขียน
เหมือนมนุษย์มากกว่าที่คิด
ยิ่งไปกว่านั้น ต้นไม้ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ทำให้เรารู้สึกได้เลยว่า ‘พวกเขา’ ไม่ได้ต่างจากเราเลย โดยเฉพาะสิ่งที่เรียกว่า ‘เครือข่ายสังคม’ ซึ่งเป็นสิ่งที่เคยเชื่อกันว่ามีแค่สัตว์ซับซ้อนเท่านั้นที่จะมีได้เช่น ไพรเมต หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
แต่หลายครั้งนักวิทยาศาสตร์ก็พบว่ารากที่อยู่ใต้ดินนั้นคือ ‘เครือข่ายอินเตอร์เน็ต’ ดี ๆ ของต้นไม้นี่เอง พวกมันแลกเปลี่ยนทรัพยากรกัน ดูแลกัน ส่งสัญญาณหากัน รากของต้นไม้ในป่าใหญ่นั้นผูกพันกันแน่นจนแยกแทบไม่ออกเลย
“เช่นเดียวกับที่ Facebook หรือ X ถูกใช้เพื่อกระจายข่าวสารเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์อย่างเรา สำหรับต้นไม้แล้ว สัญญาณความเครียดจะถูกส่งต่อและมีการแบ่งปันทรัพยากร ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ต้นไม้อยู่รอดและเจริญเติบโต” Mike Dilger นักนิเวศวิทยาอธิบาย
ความรู้เกี่ยวกับต้นไม้เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดผลสูงสุด เนื่องจากปัจจุบันมีเพียงต้นไม้ที่โดดเด่นเท่านั้นที่ได้รับการจัดทำแผนที่และได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย แต่อันที่จริงแล้ว การดูแลมนุษย์ ก็ต้องดูแลต้นไม้ด้วยเช่นกันเพราะทั้งสองเชื่อมโยงกันมาอย่างยาวนาน
“เราเรียกต้นไม้ว่าเป็นสิ่งที่มากกว่ามนุษย์ โดยมองต้นไม้ไม่เพียงแต่ในฐานะสิ่งมีชีวิตเดี่ยว ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นระบบนิเวศของสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด มุมมองที่มากกว่ามนุษย์ช่วยให้เราพิจารณาชีวิตของมนุษย์และต้นไม้ที่เกี่ยวพันกัน” รายงาน Do you have a tree friend?—Human–tree relationships in Finland สรุป
ที่มา
https://besjournals.onlinelibrary.wiley.com/doi/full/10.1002/pan3.10593