หลายคนอาจคิดว่าเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอาจทำให้มนุษย์เข้าถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่คุณภาพดีขึ้นและใช้งานได้นานขึ้น แต่จากผลสำรวจก็ดูจะไม่เป็นอย่างนั้นซะทีเดียว เมื่อฟังก์ชั่นที่หลากหลายขึ้น รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป กลับทำให้คนใช้งานมันสั้นลง
เทรนด์ที่ไวขึ้นส่งผลต่อการเปลี่ยนเพื่อตอบโจทย์เทรนด์ ไม่ใช่เพื่อการใช้งาน?
จากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรระบุว่า ตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวมของไทยในปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปัจจัยหลัก ได้แก่ การเปิดตัว AI Smartphone ที่เพิ่มจำนวนขึ้นและความต้องการในกลุ่มสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่รองรับ 5G ที่มากขึ้น
โดยในปี 2025 นี้คาดว่ายอดขายสมาร์ทโฟนในไทยจะเติบโตขึ้นราว 6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าจาก 13,174,215 เครื่องในปี 2023 สู่ 16,040,316 เครื่องในปี 2024 และ อาจอยู่ที่ 16,860,459 เครื่องในปี 2025
จากการวิจัยของศูนย์วิจัยร่วม (JRC) แห่งสหภาพยุโรป พบว่า ผู้คน 47% เลือกเปลี่ยนอุปกรณ์เพราะอยากอัพเดทเทรนด์ความสวยงามเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือ 40% เปลี่ยนเพราะความล้าสมัยทางเทคนิค สภาพไม่ดี แตกหักหรือซ่อมแซมไม่ได้ และอันดับสุดท้ายที่น้อยสุด 13% คือเรื่องความล้าสมัยด้านการใช้งานที่อาจจะไม่สามารถรองรับระบบหรือแอพฯ ในปัจจุบันได้แล้ว

หลังจากสมาร์ทโฟนกลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์แล้วไปไหนต่อ ?
สมาร์ทโฟน 1 เครื่องประกอบไปด้วยวัสดุหลายประเภทจึงทำให้ยากต่อการรีไซเคิลเพราะต้องชำแหละส่วนประกอบต่าง ๆ ออกจากกัน ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ แผงวงจร กล้อง หน้าจอ
แต่ แต่ สิ่งเหล่านั้นไม่ไม่ได้มีแต่ความอันตราย! หากแต่คือของมีค่าทั้งนั้น สมาร์ทโฟนล้วนมีส่วนประกอบของทั้งเงิน ทองคำ แพลเลเดียม อะลูมิเนียม ธาตุเคมีหลายชนิด แม้จะเป็นจำนวนน้อยนิด แต่หากเราเซฟทรัพยากรเหล่านี้ได้เป็นหมื่นเป็นล้านเครื่อง นั่นคือการเซฟต้นทุนเงินและทรัพยากรมหาศาล เพราะการรีไซเคิลอะลูมิเนียมใช้พลังงานน้อยกว่าการผลิตอะลูมิเนียมใหม่จากแร่ดิบถึง 95%
ในมุมกลับกัน หากโทรศัพท์ถูกฝังกลบ วัสดุที่มีมูลค่าเหล่านี้จะกลายเป็นตัวร้ายปล่อยสารพิษทันที ไม่ว่าจะเป็นโลหะหนักอย่างตะกั่ว ปรอท แคดเมียม และสารหน่วงไฟโบรมีนที่อยู่ในตัวก็จะค่อย ๆ ซึมลงสู่แหล่งน้ำใต้ดินและรอวันย้อนกลับมาทำร้ายมนุษย์เรา ซึ่งการจัดการส่วนใหญ่ในปัจจุบันไม่ได้เข้าสู่การจัดการอย่างถูกต้องตามหลัก ทั้งการถอดแยกชิ้นที่ไม่ปลอดภัย ไม่ถูกสุขลักษณะ และไม่มีการควบคุมสารอันตราย

ความท้าทายอย่างหนึ่งที่ต้องเร่งแก้ไขคือ ประเทศไทยเรายังไม่บรรลุกฎหมายเฉพาะสำหรับ “การจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” ที่ระบุว่าต้องคัดแยกชิ้นส่วนไหนบ้าง เอาไปกำจัดด้วยวิธีใดบ้าง ทำให้ยังคงเหลือวัสดุบางส่วนที่ถูกลักลอบส่งไปลงหลุมฝังกลบ และมีเพียงบางชนิดที่ถูกคัดแยกนำไปขายต่ออย่างมีมูลค่า
โดยในปัจจุบัน กำลังมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. (ร่าง พ.ร.บ. WEEE) ที่เสนอโดยกรมควบคุมมลพิษ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมีใจความที่ระบุ “หลักการความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นของผู้ผลิต” (Extended Producer Responsibility: EPR) เช่น ให้ผู้ผลิตและผู้นำเข้าขึ้นทะเบียน จัดทำแผนการจัดการซากผลิตภัณฑ์ รายงานผล และรับผิดชอบต่อการคืนซาก
ในขณะเดียวกัน เรายังต้องเผชิญกับปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกลักลอบนำเข้ามา แม้ประเทศไทยได้มีการออกกฎหมายห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2568 แล้ว แต่ก็ยังมิวาย เผชิญกับปัญหาการเป็น “ถังขยะโลก” ซึ่งถูกลักลอบนำเข้าขยะสารพัดชนิดอย่างที่เราเห็นกันก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากจากประเทศโลกที่ 1 ซึ่งลักลอบเข้ามากำจัดที่โรงงานในภาคตะวันออก และอาจสร้างมลพิษที่ปนเปื้อนต่อแหล่งน้ำและมลพิษทางอากาศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ระบบรีไซเคิลที่ดีไม่พอ แต่ต้องลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น
แน่นอนว่าการรีไซเคิลเป็นหนทางที่ดีต่อการใช้ทรัพยากรที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่อีกหนึ่งหนทางคือการผลักดันให้เกิดการ “ใช้ทรัพยากรตั้งแต่ต้นทางให้น้อยที่สุด” ของผู้ผลิต เช่น การส่งเสียงถึงผู้ผลิตให้คำนึงถึงการออกอุปกรณ์ที่เอื้อต่อการซ่อมง่าย หรือการออกแบบรูปลักษณ์ที่เอื้อต่อการใช้อุปกรณ์เสริมด้วยกันได้ รวมถึงฟังก์ชั่นทางเทคนิคต่าง ๆ ที่จะทำให้ผู้คนสามารถใช้โทรศัพท์เครื่องหนึ่งได้ยาวนานขึ้น โดยไม่ต้องกลัวว่าจะต้องรีบเปลี่ยนโทรศัพท์เพราะกลัวตกเทรนด์หรือเพราะระบบไม่รองรับ
ตัวเลขหนึ่งที่น่าตกใจคือ การทำเหมืองโคลแทนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกที่มาตอบโจทย์ตลาดสมาร์ทโฟน มีส่วนทำให้ประชากรกอริลลาภูเขาที่อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์มีจำนวนลดลงไป 90% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
ในโลกที่โทรศัพท์กลายเป็นอวัยวะที่ 33 และปัจจัยที่ 5 ของทุกคนจึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ในมือพวกเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อโลก แต่ในเมื่อเราปฏิเสธการใช้งานมันไม่ได้ ก็ต้องกลับมาตั้งหลักกันที่ว่า “เราใช้มันอย่างรู้คุณค่าเพียงใด?”
ที่มา
Kasikorn Research : ตลาดมือถือไทย เริ่มเปลี่ยนผ่านสู่ยุค AI Smartphone
NSYS Group : Average Device Lifespan: How Long Does a Cell Phone Last
Landbell Canada : How Are the Materials in Phones Separated and Reused in Ontario, Canada?
GreenWashingIndex : How to Recycle Smartphones 2025: Complete Step-by-Step Guide
Facebook สถานีประชาชน ไทยพีบีเอส