Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

‘RECYCLE DAY Thailand’ แพลตฟอร์มที่เชื่อว่าการแยกขยะต้องง่ายและทำได้ทุกวัน

เห็นด้วยกับพวกเขาไหมว่า ต้นทางแยกขยะดีเท่าไหร่ กลางทางและปลายทางก็ง่ายมากขึ้นเท่านั้น?

หากมีแบบสอบถามหนึ่งถามคุณว่า “คุณคิดว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้กำจัดการขยะยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จในประเทศไทย?” สำหรับคำถามนี้ เราเชื่อว่าผู้อ่านหลายคนคงมีคำตอบที่เหมือนหรือต่างกันไปไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะดวกในการแยกตั้งแต่ต้นทาง บรรจุภัณฑ์ไม่ชัดเจน กฎหมายที่ยังไม่เข้มงวด ฯลฯ 

แต่ก่อนจะรีบสรุปคำตอบในแบบสอบถามนี้ ในวันนี้ เราอยากชวนทุกคนมาสำรวจคำตอบจาก ‘RECYCLE DAY Thailand’ ธุรกิจที่เป็นเพื่อนร่วมทางลงมือจัดการขยะไปด้วยกัน โดยพวกเขาเชื่อว่าหากต้นทางมีการแยกขยะได้ดีมากเท่าไหร่ การจัดการที่กลางทางและปลายทางก็จะยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น 

แต่ แต่ ก็จะยังมีคำถามสำคัญตามมาคือ 

“แล้วจะทำอย่างไรให้คนต้นทางอยากแยะขยะได้มากที่สุดล่ะ?”

นี่คือหนึ่งในจุดที่คุณชนัมภ์ ชวนิชย์ CEO & Co-Founder ของ Recycle Day Thailand หยิบมาเป็นโจทย์ในการพัฒนาแพลตฟอร์มว่าด้วย “การทำให้เรื่องแยกและส่งต่อขยะนั้นเกิดขึ้นได้ง่ายที่สุด”

เหมือนกับชื่อ ‘Recycle Day’ ที่เขาหยิบมาตั้งเป็นชื่อธุรกิจโดยล้อกับโมเดลวันเก็บขยะในต่างประเทศที่มีกำหนดเป็นวัน ๆ ไป  แต่สำหรับ  ‘RECYCLE DAY Thailand’ ที่หยิบชื่อมาปรับใช้นั้น เพราะเขาอยากให้การแยกขยะนั้นเกิดขึ้นได้ทุกวันและให้ผู้คนสามารถส่งต่อวัสดุได้ง่ายขึ้นผ่านแพลตฟอร์มของพวกเขาอย่างครบวงจร

เอาล่ะ เชื่อว่าอ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยกันบ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ทำงานยังไง จะช่วยให้การจัดการขยะที่บ้านเราง่ายขึ้นได้จริงรึเปล่า เราขอพาทุกคนไปรู้จักกับแพลตฟอร์ม ‘RECYCLE DAY Thailand’ กันได้ในบทความนี้เลย

เมื่อพูดถึงเรื่องการจัดการขยะในไทย คุณชนัมภ์เล่าว่าก่อนหน้านี้ได้เคยมีประสบการณ์งานด้านนี้มาอยู่ก่อนแล้ว และสิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือกระบวนการกลางทางและปลายทางในการจัดการขยะของไทยค่อนข้างมีความพร้อมอยู่ระดับหนึ่งแล้ว แต่สิ่งที่ต้องขับเคลื่อนให้มากขึ้นคือต้นทาง เพราะหากต้นทางไม่ได้แยกแล้ว การจะนำวัสดุเหล่านั้นไปจัดการต่อก็กลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้น

ปัญหาหนึ่งที่พบบ่อยในการจะจัดการขยะต้นทางให้ดีคือ การไม่สะดวกไปส่งต่อหรือถ้าแยกแล้วก็ไม่รู้จะไปส่งต่อที่ไหนให้เขาจัดการได้ถูกต้อง 

จุดนี้จึงเกิดมาเป็นบริการจัดการขยะที่แทบจะครบวงจรบนแอพฯ Recycle Day

สิ่งที่ Recycle Day ให้ความสำคัญที่สุดคือการอำนวยความสะดวกให้คนอยากเข้าร่วมมากขึ้น แพลตฟอร์มนี้จึงตั้งใจรวบรวมบริการทั้งการเรียกรถไปรับตามสถานที่และการรวบรวมข้อมูลจุดดร็อปตามห้างสรรพสินค้าเอาไว้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทั้งคนที่สะดวกที่บ้านและคนที่สะดวกวนมาดรอปตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ 

ซึ่งข้อดีของแอพฯ นี้ที่ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ จะได้รับคือการแลกรางวัลโดยใช้แต้มที่เราสะสมผ่านการหย่อนขยะแต่ละครั้ง 

หนึ่งในหน้าที่ที่สำคัญของ Recycle Day คือการเป็นตัวกลางในการหาที่ทางไปต่อให้กับวัสดุแต่ละชนิด ซึ่งทั้งหมดก็จะถูกกระจายไปสู่โรงงานแต่ละแห่งที่สามารถรีไซเคิลวัสดุเหล่านั้นได้อย่างถูกวิธี 

“สิ่งหนึ่งที่เราเจอบ่อยที่สุดคือพวกขยะจากเดลิเวอร์รี่ ไม่ว่าจะเป็นแก้วกาแฟ ช้อนส้อม หลอด” 

คุณชนัมภ์เล่าว่าขยะประเภทนี้คนส่งมาค่อนข้างเยอะ แต่ความโชคดีคือแต่ละคนที่นำมาส่งค่อนข้างมีความเข้าใจดี ล้างสะอาดและเช็ดให้แห้งก่อนที่จะส่งมาส่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

“สำหรับวัสดุแต่ละประเภท เราเชื่อว่าเราส่งต่อได้หมด หลายอันที่คิดว่าอาจจะจัดการไม่ได้แต่จริง ๆ มันก็ส่งต่อไปเผาเป็นเชื้อเพลิงได้ แต่ขอแค่แยกจากเศษอาหารและน้ำออกก่อนก็พอ”

Recycle Day เติบโตมาแล้วกว่า 7 ปี โดยใช้เวลาทั้งหมดค่อย ๆ พัฒนาแพลตฟอร์มของพวกเขาและขยายบริการให้ครอบคลุมเรื่องการจัดการขยะให้ได้มากที่สุด แน่นอนว่า 7 ปี ก็ไม่ใช่เวลาน้อย ๆ เลยล่ะสำหรับงาน ๆ หนึ่ง ในฐานะคนทำงานด้านสิ่งแวดล้อมเหมือนกัน คำถามหนึ่งที่เราอดสงสัยไม่ได้เลยคือ.. 

“สิ่งที่ยากที่สุดตลอดการทำงานด้านนี้มา 7 ปีคืออะไร?” 

สิ่งที่คุณชนัมภ์ตอบคือ ‘การชวนให้คนมาเข้าร่วม’ ให้ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเขาเล่าว่า กลุ่มเป้าหมายนี้อาจแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคร่าว ๆ คือ กลุ่มคนทั่วไปและกลุ่มองค์กร บริษัท ซึ่งสำหรับกลุ่มองค์กรนั้นตื่นตัวมากขึ้น ทั้งด้วยความสนใจและการปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ความยั่งยั่งในธุรกิจ เพราะในแอพฯ จะมีการเก็บบันทึกข้อมูลการเข้าร่วมแต่ละครั้งไว้ องค์กรก็สามารถดึงรายงานตรงนี้ไปใช้ได้

แต่สำหรับกลุ่มบุคคลทั่วไป ก็จะเป็นแนวว่า คนที่สนใจก็สนใจเลย แต่คนที่ยังไม่สนใจก็ยังไม่เข้าร่วมเท่าไหร่ ตรงนี้เลยเป็นโจทย์ที่จะต้องทำยังไงให้เรื่องแยกขยะนั้นสนุกหรือน่าสนใจขึ้น Recycle Day จึงใช้วิธีการสะสมแต้มแลกรางวัลมาร่วมด้วยเพื่อกระตุ้นความสนใจให้คนอยากมาส่งต่อขยะกันมากขึ้นด้วย

บางเวลาก็เป็นนักออกแบบอีเวนต์ด้วย?

Recycle Day ไม่ได้เป็นแค่เพียงนักจัดการที่ช่วยส่งต่อวัสดุไปรีไซเคิล แต่ในอีกขาหนึ่งก็นับได้ว่าพวกเขาเป็น ‘นักออกแบบ’ ในอีเวนต์ต่าง ๆ ที่มีส่วนร่วมในการออกแบบเส้นทางการแยกขยะในงานอีกด้วย  เช่น การจัดสัมมนา อีเวนต์กีฬา ไปจนถึงเฟสตัลดนตรี ซึ่งมีดีเทลยิบย่อยที่ต้องพูดคุยและออกแบบต่างกันไปในแต่ละงาน

“เราเริ่มเรื่องการเข้าไปช่วยจัดการขยะให้กับองค์กร อีเวนต์ต่าง ๆ เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว มีหลายหน่วยงานติดต่อมา ซึ่งเราก็มองว่ากิจกรรมไม่ว่าจะจัดที่ไหน มันก็เป็นการเพิ่มขยะให้พื้นที่นั้น ๆ ในตัวอยู่แล้ว พอมีอีเวนต์ก็เพิ่มขยะขึ้นมาหลายเท่า หลายที่ก็มองว่าอยากมีนโยบายที่รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ เพราะฉะนั้นก็เลยมองเรื่องของการจัดการขยะในงานกันมากขึ้น” คุณชนัมภ์เล่าถึงที่มาให้เห็นคร่าว ๆ

“ขั้นตอนการจัดการในอีเวนต์ก็ต้องเริ่มจากไปฟังความต้องการของเขาก่อนว่าตัวเขาอยากแยกแบบไหน และดูว่าภายในควรจะมีจุดทิ้งขยะ จุดถ่ายขยะยังไงบ้างเพื่อให้ครอบคลุม 

เวลาจะออกแบบงานแต่ละทีเราก็ต้องเซอร์เวย์ให้ชัดเจนว่ามีความต้องการอะไรบ้างอย่างคอนเสิร์ต งานอีเวนต์ก็ย่อมมีอาหารในงานแน่ ๆ ก็ต้องมีจุดแยกเศษอาหาร แยกน้ำเข้ามา เพื่อลดการปนเปื้อนสิ่งอื่น ๆ”

“ซึ่งความเปลี่ยนอย่างหนึ่งที่ผมเห็นคือ ผู้จัดเขาเปลี่ยนชัด เราเห็นได้ว่าทุกคนมีเป้าหมายชัดเจนมากขึ้นว่าต้องการทำอะไรและมีความรับผิดชอบจริง ๆ คนที่มาร่วมงานก็เข้าใจมากขึ้น เตรียมตัวมากขึ้น แม้จะยังไม่ 100% แต่เรื่องแบบนี้ก็ต้องใช้เวลากันไป”

แม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจของ Recycle Day จะมีการพัฒนาและขยายบริการให้เหมาะกับพฤติกรรมผู้คนหลากหลายกลุ่มมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์การแก้ปัญหาต้นทางในการจัดการขยะ แต่คุณชนัมภ์ก็มองว่าธุรกิจด้านความยั่งยืนนี้เป็นสิ่งที่จะเติบโตได้มากกว่านี้และกิจกรรมต่าง ๆ ก็มีโอกาสที่จะขยายไปได้มากขึ้น 

เพียงแต่โจทย์สำคัญที่เราทุกคนต้องเป็นคนช่วยกันตอบนั่นก็คือ ธุรกิจเหล่านี้จะขยายและเติบโตได้เร็วพอที่จะแก้ปัญหาสภาวะโลกรวนที่รุนแรงขึ้นยังกำลังจะกู่ไม่กลับหรือไม่ รวมถึงผู้บริโภคที่จะต้องให้ความร่วมมือและตระหนักถึงเรื่องนี้ให้มากขึ้นด้วย

Credit

Chayanit S.

เป็นคนกรุงเทพฯ ชอบเดินเที่ยวเมือง ฟังเพลงซ้ำ ๆ นั่งโง่ ๆ ดูคนคนใช้ชีวิต :-)