Hug Organic ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของคนไทยที่ดีต่อกาย ดีต่อใจ ใช่ต่อโลก

“เราอยากเป็นสื่อกลางของความรักที่ทุกคนมอบให้กันผ่านผลิตภัณฑ์ฮัก ออร์แกนิก”

สารเคมีที่คอยสร้างมลพิษให้โลกของเราขยายวงกว้างคืบคลานมายังอุตสาหกรรมสกินแคร์ก็ไม่เว้น ทำเอาเราต้องเริ่มพลิกดูฉลากก่อนใช้กันเป็นว่าเล่น ไม่ว่าจะเป็นครีมอาบน้ำ โลชั่น กันแดด ไหนจะขยะบรรจุภัณฑ์ ไหนจะต้องระวังสารเคมี ถ้ามีผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อทั้งเราและโลกไปพร้อม ๆ กันคงจะดีไม่ใช่น้อย ความคิดที่วนเวียนเข้ามาเสมอเมื่อถึงเวลาที่เราต้องเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดครั้งใหม่

เห็นผลทันควันตามคำขอ เมื่อเราได้รู้จักผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่จริงใจอย่าง Hug ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่ใช้วัตถุดิบจากไทยล้วน ๆ แถมยังเจอได้บ่อยตามสถานีรีฟีล ทำเอาเราเริ่มเห็นถึงความตั้งใจของทางเจ้าของแบรนด์ที่พยายามสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านทั้งช่องทางวางขาย ฉลากแปะบรรจุภัณฑ์ คำอธิบายที่พิมพ์ผ่านเว็บไซต์ วัตถุดิบออร์แกนิกที่คัดสรรอย่างใส่ใจ

ทางเราที่นับอยู่ในฐานะผู้บริโภคยังแอบยิ้มไปกับนิยามความตั้งใจของทางแบรนด์บวกกับเมื่อยามที่เราได้ใช้ไม่ต้องคอยกังวลใจว่าผลิตภัณฑ์ที่เราใช้อยู่นั้นจะไปกระทบสิ่งใดหรือเปล่า? ถ้าลดได้เลี่ยงได้ก็อยากทำให้ได้มากที่สุดเราคิดอย่างนั้น แล้วทางแบรนด์ล่ะคิดแบบไหน คงอิ่มอกอิ่มใจไม่น้อยที่ได้เป็นทั้งที่รักของผู้บริโภครวมถึงโลกของเรา ในมุมของ Passion ทางด้านสิ่งแวดล้อมเราคงเห็นได้จากตัวของผลิตภัณฑ์เองแล้ว แต่ในมุมของด้านธุรกิจล่ะ มันสามารถควบคู่ไปด้วยกันได้จริงหรือ นั่นคือหัวข้อที่เรายังคงสงสัย

งั้นพวกเราไปทำความรู้จักกันมากขึ้นอีกขั้นกันดีกว่ากับ ฮัก แบรนด์ที่สร้างจากความรัก โดย คุณน้ำผึ้ง ภมรรัตน์ พรรณรัตนพงศ์ 

ด้วยบทบาทลูกสาวคนโตสู่การเกิดขึ้นของ ‘ฮัก’

เบื้องหลังผลิตภัณฑ์ที่อบอวลไปด้วยความรักแท้จริงนั้นคือลูกสาวคนโตของบ้าน ที่รับหน้าที่จูงมืออากงอาม่าไปหาคุณหมอ อาการป่วย ค่ารักษา ค่าเสียเวลา มองดูร่างกายอากงอาม่าที่ล่วงเลยมาจนเลยผ่านการดูแลรักษาที่สายกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้เธอปิ๊งได้ถึงแนวคิดที่ว่า ‘ทำไมเราไม่เริ่ม ‘กันก่อนแก้’ ล่ะ?’

ความรักจากครอบครัวที่สร้างเธอขึ้นมาให้เป็น คุณน้ำผึ้ง ภมรรัตน์ พรรณรัตนพงศ์ ที่เปี่ยมไปด้วยแนวคิดอยากส่งต่อมอบสิ่งที่ดีให้กับคนที่เธอรักเช่นกัน รักตัวเอง รักครอบครัว รักผู้บริโภค และรักษ์โลกไปพร้อม ๆ กัน ผ่านผลิตภัณฑ์ที่เธอได้รังสรรขึ้นมาอย่าง “ฮัก” 

“เมื่อโอบกอด เราจะกลายเป็นทั้งผู้ให้ ผู้รับในเวลาเดียวกัน จึงกลายมาเป็น ฮัก ความรักที่แสดงออกผ่านการกอด”

ความสุขที่ผลิตภัณฑ์ของเราได้มอบให้ทุกคนล้วนมาจากธรรมชาติ ดังนั้นเมื่อเราเป็นฝ่ายรับจึงอยากเป็นฝ่ายตอบแทนคืนธรรมชาติด้วยเช่นกัน เปรียบดั่งการกอด

นี่คือนิยามของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่อยากส่งมอบความรักผ่านสุขภาพผิวที่ดีจากส่วนผสมธรรมชาติใกล้เคียง 100% มากที่สุด หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีอันตรายและไม่จำเป็น พร้อมมาตรฐานความใส่ใจที่นับผู้บริโภคเป็นเหมือนหนึ่งในครอบครัวเดียวกัน คำนึงตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงอายุขัยการใช้งานพร้อมปูทางสู่การ นำกลับมาใช้ใหม่

จากการจัดการในบ้าน ขยายกว้างสู่หัวของแบรนด์

“ครอบครัวใหญ่ คนเยอะ ใช้เยอะ ทิ้งเยอะ” 

คุณน้ำผึ้งเล่าว่า เรื่องที่หนีไม่พ้นคงเป็นเรื่องของขยะที่ตามมาเป็นจำนวนมาก แล้วจะจัดการในส่วนนี้อย่างไรบ้างให้ถูกต้องตามที่ควรจะเป็น ลดได้มั้ย ทิ้งแบบไหน ความใส่ใจเริ่มถูกใช้ในประเด็นเหล่านี้ เพราะเธอเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงจากผลกระทบที่สิ่งแวดล้อมได้รับและตอบกลับคืนมา 

จากการจัดการภายในบ้านเริ่มขยายวงกว้างสู่ผลิตภัณฑ์ของเธอ บรรจุภัณฑ์ของ Hug จึงเน้นการใช้ซ้ำและรีไซเคิลได้เสมอเพื่อตระหนักถึงปัญหาใหญ่ในแวดวงอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอย่างการที่มักใช้ Single- use plastic ที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้

อีกทั้งความเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกหลายยุค หลายสมัย ทั้งรุ่นใหญ่ยันหลานตัวน้อย สิ่งที่ถูกให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ในครอบครัวคือ ‘ความปลอดภัย’ เพราะอยากเห็นคนที่เธอรักกินอิ่มหลับสบาย และใช้เวลาด้วยกันไปนาน ๆ ความใส่ใจต่อคนรอบข้างกลายเป็นเรื่องธรรมดาสุดพิเศษที่เกิดขึ้นเป็นประจำไปแล้ว หลายครั้งเธอมักหยิบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มาพลิกดูว่า ‘มีส่วนประกอบจากสารเคมีมั้ย ปลอดภัยต่อครอบครัวรึเปล่า’ รู้ตัวอีกทีเธอก็เป็นบิ๊กแฟนของผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติไปซะแล้ว

หัวใจวัตถุดิบ

เรื่องของสารเคมีไม่เพียงอันตรายต่อคนเท่านั้นแต่ยังละลานไปถึงโลกของเราด้วย นี่เป็นสิ่งที่เธอคำนึงอยู่เสมอว่า หากเราไม่ดูแลธรรมชาติที่มี ท้ายที่สุดแล้ววัฏจักรมลพิษเหล่านี้จะกลับย้อนคืนสู่ร่างกายเราเช่นกัน อย่างในปัจจุบันที่ระบบนิเวศและสัตว์น้ำโดนทำลายจากสารเคมีในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ถูกชะล้างจากท่อระบายน้ำสู่มหาสมุทร เช่น oxybenzone และ octinoxate ในครีมกันแดดที่เป็นสารเคมีที่มีส่วนทำให้เกิดการฟอกขาวของปะการัง 

นี่จึงเป็นอีกจุดประกายของผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่คัดเลือกส่วนผสมจากความตั้งใจ และได้มาตรฐานสากล หลีกเลี่ยงสารเคมีที่ไม่เป็นอันตรายทั้งต่อผิวและสิ่งแวดล้อม รวมถึงเลือกใช้เทคโนโลยีจุลินทรีย์ชีวภาพจึงช่วยบำบัดน้ำเสียที่ส่งผลดีต่อระบบนิเวศ

ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ 

ข้าวหอมนิล 

ตะไคร้เชียงราย 

ปะคำดีควายชาวปกากญอ 

น้ำมันมะพร้าวอัมพวา 

อีกหนึ่งสิ่งที่มัดใจคือการเลือกใช้วัตถุดิบของไทยมาชูโรงเป็นตัวเอกของผลิตภัณฑ์ 

“อยากให้ธุรกิจของเรามีประโยชน์กับทุกภาคส่วน” นี่คือสิ่งที่คุณน้ำผึ้งพึงคิดไว้เสมอ เธอจึงได้เลือกอุดหนุนเกษตรกรไทย เพิ่มรายได้ให้กับชาวบ้าน เหมือนเป็นการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ชาวบ้านถนัดเพาะปลูก เราถนัดธุรกิจผลิตภัณฑ์ ต่างคนต่างตั้งใจในหน้าที่ของตัวเอง กลายเป็นความร่วมมือที่จะสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อทุกคน

ฮักได้วัตถุดิบธรรมชาติมาสร้างผลิตภัณฑ์ ผู้บริโภคได้ใช้ผลิตภัณฑ์ไร้สารเคมี ชาวบ้านได้มีรายได้ไปพัฒนาต่อ ธรรมชาติได้รับการดูแลกลับคืน เพราะเธอเชื่อว่าเราหยิบยืมธรรมชาติมาเท่าไรก็ควรตอบแทนกลับไปเช่นกัน

‘ธุรกิจได้ไปต่อ?’

หากธุรกิจนับความอิ่มอกอิ่มใจเป็นมูลค่า เชื่อว่าแบรนด์ Hug คงได้กำไรล้นหลาม แต่หากเปลี่ยนฉากเป็นการคำนวณลงทุน ต้นทุน กำไร คิดว่าการรักษ์โลกกับธุรกิจไปควบคู่กันได้จริงหรือเปล่า?

“เข้าใจว่าผลิตภัณฑ์ของเราอาจยังเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม แน่นอนว่าเราก็ไม่ได้ยืนได้ตั้งแต่ก้าวแรก แต่เพราะความเชื่อในความตั้งใจแรกเริ่มของเราว่ามันจะส่งผลดีในระยะยาวอย่างยั่งยืนแน่นอน

วัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ ขนาด การวางจำหน่าย ล้วนแล้วแต่ผ่านกระบวนการคิดมาอย่างดี เราทำให้เต็มที่ที่สุดในความสามารถของเรา การบาลานซ์ที่จะดีต่อทุกฝ่าย เราวางแผนให้แบรนด์เดินต่อไปได้แม้จะยังไม่ใช่แบรนด์ที่ใคร ๆ ร้องอ๋อรู้จักมากนัก แต่ความหวังของ Hug ต้องสร้างแรงกระเพื่อมให้กับอีกหลาย ๆ คนเป็นแน่”

ตบมือข้างเดียวไม่ดัง คงจะดีถ้าทำงานกันเป็นทีม ผู้ผลิต ผู้บริโภค แปะมือกันร่วมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม Refill Reused Recycle ทาง Hug ไม่น้อยหน้าเพราะนอกจากจะวางขายทางเว็บไซต์ปกติ ยังมี Station สำหรับให้ลูกค้าหิ้วภาชนะแวะเวียนไปตักไปเติมกันได้หลายสาขา แถมยังมีส่วนลดเพื่อเชิญชวนคนหันมานิยมการใช้ซ้ำจากบรรจุภัณฑ์ที่มีอยู่แล้ว

บาดแผลของธรรมชาติในปัจจุบันเริ่มมีให้เห็นกันได้ง่ายขึ้น สิ่งแวดล้อมพูดไม่ได้ใช่ว่าไม่สูญเสีย Hug รู้สึกดีใจและยินดีเมื่อได้รู้ว่าผลิตภัณฑ์ของเราบางทีก็ไม่เพียงแต่เป็นสื่อกลางในการดูแลตัวเองเท่านั้นแต่ยังสามารถควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กันได้ด้วย

การเดินทางของ Hug ได้ก้าวสู่ปีที่สิบแล้ว และเชื่อว่าหนทางนี้ยังอีกยาวไกลและไม่สิ้นสุดอย่างแน่นอน คำว่าประสบความสำเร็จอาจไม่ใช่เส้นชัย แต่เป็นการที่ได้เห็นผู้คนเริ่มใส่ใจตัวเองและโลกของเรามากขึ้น 

“เมื่อเราสำเร็จไปทีละขั้น เป้าหมายที่เราจะทำก็ต้องมากยิ่งขึ้น ซึ่งอยากให้ทั้งเราและผู้บริโภคนับความสำเร็จไปด้วยกัน และพร้อมเปิดรับจิ๊กซอว์ที่พร้อมมาต่อเติมผลักดันแนวคิดเหล่านี้” เธอกล่าวปิดท้าย

แนวคิดที่ใครได้ฟังต้องเผลอยิ้มตาม แนวคิดที่เธอดีใจเป็นอย่างมากเวลามีคนได้อ่านไม่ว่าจะในเว็บไซต์ หรือหลังบรรจุภัณฑ์ ความตั้งใจที่ถ้าให้บรรยายลงบนฉลากผลิตภัณฑ์คงไม่หมด หญิงสาวและผลิตภัณฑ์ของเขาทำให้เรานึกออกอยู่ประโยคเดียวคือ Hugนี้มีแต่ให้

ที่มาภาพทั้งหมด: Hug Organic

Credit

Araya A.

Related posts

คุยกับช้างน้อย-กุญชร The Cloud กับฝันที่อยากให้เที่ยวไทยไประดับโลก

ครั้งแรกของ Amazing Green Fest ว่าด้วยเที่ยวยั่งยืนหลายเชด

แคดเมียม – สารเคมีอันตราย

สารโลหะหนักจำพวกเดียวกับปรอท ตะกั่ว สารหนู แคดเมียม สังกะสี ทองแดง อลูมิเนียม

สีเขียวบนธงไพร์ด ไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อมแต่เป็นเรื่องของ “สิทธิ” ในการมี “ชีวิต” ของเราทุกคน

สีเขียวบน ‘ธงสีรุ้ง’ ในช่วง Pride Month ตัวแทนแห่ง ‘ธรรมชาติ’ และเสียงสะท้อนถึงเหล่าสิ่งมีชีวิต ทรัพยากร และสรรพสิ่งต่าง ๆ

Qualy แบรนด์ที่ชุบชีวิตวัสดุรีไซเคิลและใช้ความคิดสร้างสรรค์พูดแทนธรรมชาติ

เมื่อการผลิตแบบสปอยล์ผู้บริโภคยิ่งเพิ่มขึ้น การผลิตอย่างคิดถึงโลกจึงเป็นเรื่องสำคัญ