แกะรอยวิถีชีวิตชาวมอญ ชุมชนเกาะเกร็ด จากวัฒนธรรมชุมชนสู่พื้นที่ฮีลใจหลบความวุ่นวายในเมือง

เที่ยวเชิงวัฒนธรรม ได้สัมผัสธรรมชาติ หนีมาอยู่เกาะใจกลางกรุง

วันสบาย ๆ เดินเล่น กินเที่ยว ท่ามกลางบรรยากาศชิว ๆ ในเกาะใจกลางกรุง วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชุมชนชาวเกาะเกร็ด

ไหนใครอยากไปติดเกาะกันบ้าง แบบไม่ต้องบินไปไกลถึงทะเล เพราะแถว ๆ เมืองนนท์เขามีเกาะที่มีชื่อว่า  ‘เกาะเกร็ด’ แหล่งรวมอารยธรรมของชาวมอญ และบรรยากาศที่ให้เราได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตของคนที่นี่แบบครบจบในที่เดียวไม่ว่าจะเป็นเรื่องกิน ชิม ช้อป รวมถึงเวิร์กชอปเก๋ ๆ ของสายกิจกรรม หรือจะมานอนชิว ๆ สไตล์โฮมสเตย์ สัมผัสกับธรรมชาติกันได้อย่างเต็มอิ่ม

ที่นี่เขาเปิดทุกวันมีบริการเรือรับส่งตลอดตั้งแต่ 05:00 – 21:00 น. และสำหรับสายอินโทรเวิร์ตแนะนำให้มาช่วงวันธรรมดา จะได้บรรยากาศที่เงียบสงบ แต่ร้านค้าจะไม่ได้เปิดทุกร้านนะ ส่วนสายเอ็กซ์โทรเวิร์ตมาเลยค่าาช่วงวันหยุด สุดสัปดาห์ และวันนักขัตฤกษ์ ร้านเปิดเพียบทุกร้าน คนมาจอยกันฉ่ำเวอร์ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

เริ่มสนใจอยากมาเที่ยวแล้วใช่มั้ยล่ะ เกริ่นมาซะขนาดนี้ โดยสามารถเดินทางมาได้หลายแบบมาก ๆ แล้วแต่ว่าใครจะสะดวกแบบไหน แต่ทุกทางจะต้องนั่งเรือข้ามมายังเกาะเท่านั้น (เว้นแต่จะอยากว่ายน้ำไป 555)  เป็นไงล่ะทางเข้าก็ซิกเนเจอร์แล้วป่ะ 

ใครขับรถมาเองสามารถจอดได้ที่วัดบางจาก วัดสนามเหนือ และวัดกลางเกร็ด ส่วนใครที่นั่งรถโดยสารมาไปลงสุดสายที่วัดบ่อ โดยรถเมล์สายที่ผ่านมีทั้ง 104, 150, 166, 32, 356, 505 และ 52 รวมถึงรถตู้ และสองแถวที่เขียนว่าปากเกร็ด จากนั้นไม่ว่าใครจะมาทางไหนก็ตาม ต้องต่อเรือข้ามฝากไปฝั่งเกาะเกร็ด ค่าเรืออยู่ที่ 3-10 บาท หรือใครจะไปแบบเหมาลำเรือหางยาวก็มีบริการด้วยน้าาาา

ค่าเรืออยู่ที่ 3-10 บาท

จากแผ่นดินใหญ่สู่เกาะน้อย ๆ 

“เกาะเกร็ดมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาแล้ว และเดิมทีไม่ได้เป็นเกาะแบบนี้หรอกนะ”

เกาะเกร็ดเกิดจากการขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยา และในส่วนที่เป็นแหลมออกมานั้นได้มีกระแสน้ำที่เปลี่ยนทิศทางแรงขึ้น และกัดเซาะตลิ่งทำให้คลองขยาย แผ่นดินตรงแหลมจึงกลายเป็นเกาะเกร็ดจนถึงทุกวันนี้

ซึ่งมีชาวมอญอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ ทำให้วัฒนธรรมของคนชาวเกาะที่แห่งนี้มีกลิ่นอายเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครกับวิถีชุมชนแบบดั้งเดิม และยั่งยืน เพราะที่นี่เขาใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มาจากสมุนไพร รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ จากวัสดุธรรมชาติที่หาได้ง่าย ๆ ในชุมชน 

เมื่อถึงเกาะเกร็ดแล้ว แลนด์มาร์คที่สำคัญที่จะต้องมาเช็คอินให้ได้ ไม่งั้นมาไม่ถึงเกาะเกร็ดน้าา นั่นก้คือ ‘เจดีย์เอียง’ หรือ ‘พระเจดีย์มุตาว’ ในวัดปรมัยยิกาวาส วรวิหาร ซึ่งชาวมอญเป็นคนสร้างขึ้น สังเกตได้จากตัวอักขระมอญที่สลักบนป้ายหินของวัด 

‘และคนมอญไม่ได้สร้างเจดีย์ให้มันเอียงหรอกนะ แต่ถูกน้ำกัดเซาะต่างหากล่ะ ซึ่งกลายเป็นจุดเด่นของที่นี่ไปเล้ย!’

แม้ตัวเจดีย์จะเอียงมาหลายองศาแล้ว แต่ได้รับการบูรณะ เสริมฐานให้แข็งแรง ทำให้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเกาะเกร็ดที่ดังไกลถึงทั่วโลก และใครที่เป็นสายมู ที่นี่ก็มีวัดอื่น ๆ ให้มากราบไหว้อีก เช่น วัดไผ่ล้อม วัดเสาธงทอง และวัดฉิมพลีสุทธาวาส เป็นต้น  

ไหว้พระของพรกันไปแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะต้องมีของติดไม้ติดมือกันสักหน่อย ตลอดข้างทางในเกาะเกร็ดเราจะพบกับสารพัดผลิตภัณฑ์จากชุมชนเรียงรายมาให้ช้อปกันไม่หวั่นไม่ไหว ทั้งสินค้าถักทอมากมายอย่างเสื้อผ้า กระเป๋า พวงกุญแจก็มีแบบถักด้วย รวมถึงถ้วย จาน ชาม ช้อน เครื่องเรือนต่าง ๆ ที่แกะสลักจากไม้อย่างประณีตของช่างฝีมือดีที่นี่ 

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เราบังเอิญไปเจอ และอยากมาบอกต่อมาก ๆ เพราะถูกล่อลวงด้วยกลิ่นหอมอโรมาของแบรนด์ Chompinn ซึ่งเป็นสินค้า SME ของคนไทยและได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกด้วย

โดยเขาใช้พืชสมุนไพรออแกนิคมาทำเป็นอโรมาที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ลดอาการไมเกรน แก้หวัด แก้ภูมิแพ้ หรืออาการป่วยต่าง ๆ ตามสรรพคุณอโรมาแต่ละชนิด ดมแล้วสดชื่นมาก ๆ แถมเป็นยาได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีร้านสมุนไพรไทยรอบเกาะเกร็ดอีกหลายร้านที่น่าสนใจ บางร้านมีสูตรต้นตำรับโบราณกว่า 35 ปี เรียกได้ว่าเกาะเกร็ดอุดมไปด้วยศาสตร์เรื่องสมุนไพรที่ได้รับการยอมรับและตกทอดมาสู่รุ่นต่อรุ่น 

ถัดมาสินค้าที่สะดุดตาสุด แบบไม่ได้ตั้งใจมองก็สังเกตเห็นได้ชัดเจน คงไม่พ้นเครื่องปั้นดินเผา มีตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบจริง ๆ แถมยังมีเวิร์กชอปปั้นดินสู่ดาวไปอี๊ก! สามารถเลือกแบบที่เราอยากปั้นได้เลย จากนั้นช่างปั้นจะสอนเราเรียนรู้ตั้งแต่การขึ้นรูปจากดินเหนียวกลม ๆ ให้เป็นทรงกระถางชิค ๆ พร้อมตกแต่งลวดลายได้ตามใจชอบ ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถสร้างผลงานปะติมากรรมของตัวเองได้ง่าย ๆ ในเกาะเกร็ด

กิจกรรมอื่น ๆ นอกจากเวิร์กชอปการปั้นดินที่เป็นที่นิยมแล้ว ยังมีบริการนวดแผนไทยจากสมุนไพร ช่วยให้ผ่อนคลายได้ดีทีเดียว อันนี้ไปลองมาแล้ว สบายจนเกือบหลับคาร้านอ่ะบอกเลย 555 หรือใครสายแอดเวนเจอร์แนะนำนี่เลยเช่าจักรยาน แค่ 50 บาท ไปปั่นรอบเกาะกันได้ทั้งวัน!

เดินมาได้สักพักท้องมันก็ร้องซะแล้วสิ ก็ต้องมาหาของกินกันหน่อย นี่เลยมุ่งตรงเข้าสู่ตลาดหมู่บ้านโอ่งอ่างทันที และใครมาเกาะเกร็ดแล้วไม่ได้กินสิ่งนี้บอกเลยว่าพลาดมาก ๆ นั่นก้คือ ‘ดอกไม้ทอด‘ กรอบ ๆ เลยจ้า ทั้งดอกเข็ม เฟื่องฟ้า ดอกแค อัญชัน หัวปลี และกล้วยไม้ อีกสารพัดดอกไม้ และพืชผักสวนครัวต่าง ๆ ราดน้ำจิ้มพร้อมเสิร์ฟได้เลย! 

ทั้งยังมีทอดมันหน่อกะลาขึ้นชื่อ เมี่ยงคำ เมี่ยงดอกบัว ของกินเล่นที่คู่กับพืชสมุนไพรง่าย ๆ แต่อร่อยสุดยอด แถมราคาของกินแต่ละอย่างยังถูกมาก ๆ ด้วย นี่แอบถูกใจไข่นกกระทา เพราะปกติจะเห็นพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ใช้ถ้วยโฟมสำหรับใส่อาหาร แต่ร้านในเกาะเกร็ดเขาทำแบบเสียบไม้ เหยาะซอสหน่อย ก็กินได้แล้ว ง่ายสุด ๆ แถมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย 

แนะนำพกกระบอกน้ำไปเติมได้ทั้งวัน มีน้ำสมุนไพรขายเย็นชื่นใจ สู้กับอากาศเมืองไทยสุด ๆ!

คาเฟ่ คาใจ

ส่วนใครสายคาเฟ่ เดินลัดเลาะมาตามเกาะในตลาดหมู่บ้านโอ่งอ่างเข้ามาก็จะพบกับคาเฟ่มากมาย หลายร้านมาก ๆ และหนึ่งในร้านที่เราแวะนั่งชิว ชิมของกิน และชมบรรยากาศ แนะนำที่ ‘คาเฟ่โรงสีสตูดิโอ’ ที่ได้รับรางวัลจากสำนักงานจังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรียกให้เป็นร้านอาหาร ‘ของดีเมืองนนท์’

แต่ก่อนจะเดินเข้าโซนร้าน บอกเลยว่าคาใจสุด ๆ เพราะบรรยากาศปากทางเข้าร้านนี้โคตรจะขนลุก ขนพอง ด้วยความเคยเป็นโรงสีเก่า เลยมีต้นตะเคียน และโซนกราบไหว้อยู่ปากทางเข้าพอดี นี่เดินเข้าประตูร้านไปแล้วถึงกับต้องเดินย้อนกลับมาใหม่ว่าใช่คาเฟ่จริง ๆ นะ อ่ะใครที่อยากไปสัมผัสบรรยากาศแบบแปลกใหม่ก็ลองไปดูคร้าาา

‘คาเฟ่โรงสีสตูดิโอ’

ภายในร้านตกแต่งด้วยเก้าอี้ไม้ และสร้างบรรยากาศให้ร้านมีของความเป็นกันเอง ทุกส่วนของร้านเข้าถึงได้ มีกลิ่นอายธรรมชาติจากริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งพื้นที่ของร้านแบ่งออกเป็นโซนด้านนอกและด้านใน มีทั้งแบบที่เป็นแอร์ โต๊ะในร่ม หรือใครอยากจะไปนั่งสัมผัสบรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำก็จัดอยู่ที่โซนด้านนอกร้าน มีพื้นที่คาเฟ่สวย ๆ จัดว่าเป็นร้านอาหารที่มีทั้งขนมและเครื่องดื่ม เสริฟกันให้อิ่มท้อง อิ่มใจ รับรองว่าได้รูปสวย ๆ จากที่นี่แน่นอน 

นอกจากนี้เกาะเกร็ดยังมีโฮมสเตย์สำหรับคนที่อยากมาพักผ่อน ชาร์จแบตกันแบบจุก ๆ หลายคืน มีบริการห้องพัก และโฮมสเตย์สำหรับนักท่องเที่ยวในเรือนไม้ที่กลมกลืนกับธรรมชาติ แล้วยังมีบริการนวดแผนไทย นวดผ่อนคลายที่เป็นศูนย์อาชีพหลักของคนในเกาะ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของที่นี่ 

จากวิถีชุมชนสู่ความยั่งยืน

ด้วยความเป็นชุมชนชาวเกาะ การออกไปไหนแต่ละทีเหมือนข้ามน้ำ ข้ามทะเล จึงทำให้คนในชุมชนมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่สืบทอดจากบรรพบุรุษมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ มีเครื่องดินเผา ผักและสมุนไพรสำหรับใช้เป็นอาหารหรือยา และผลิตภัณฑ์ชุมชนต่าง ๆ ได้กลายเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น 

เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เราเคยมากินดอกไม้ทอดของที่นี่ รสชาติก็ยังคงอร่อยเหมือนเดิม เพิ่มเติมมีดอกไม้และผักเยอะขึ้น และรอบนี้เราได้เดินสำรวจชุมชน สังเกตเห็นบางบ้านติดป้ายทำนองว่า ‘บ้านนี้เข้าร่วมโครงการแยกขยะ’ ซึ่งแต่ก่อนยังไม่มี แถมยังมีพื้นที่สีเขียวกว่า 50 ไร่ ซึ่งเป็นแหล่งคาร์บอนเครดิตที่สำคัญ เสน่ห์ของเกาะเกร็ดไม่เคยจางหายไปเลย และเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ได้มาสัมผัส

จากใจคนที่เคยมาเกาะเกร็ด แม้จะมีการพัฒนา ปรับปรุงพื้นที่บางส่วนบ้าง แต่บรรยากาศและวิถีของคนในชุมชนยังคงอยู่เช่นเดิม อาหารที่ขึ้นชื่อยังคงเป็นที่นิยม สินค้ายังได้รับการยอมรับมาจนถึงทุกวันนี้ วิถีชีวิตและวัฒนธรรมผสมผสานกับสิ่งแวดล้อมในเกาะพึ่งพาอาศัยกันทำให้ผู้คนได้อยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืนในแบบของชุมชนเกาะเกร็ด

📍พิกัด: เกาะเกร็ด

ตำบล เกาะเกร็ด อำเภอ ปากเกร็ด จังหวัด นนทบุรี 11120

Map: https://maps.app.goo.gl/6AjFspGGnh8cTBBx9?g_st=com.google.maps.preview.copy

#GREENREVIEW #เกาะเกร็ด #เที่ยว #วิถีชุมชน #ชุมชนมอญ

Credit

Waranya W.

นักการเรียนรู้ตลอดชีวิต ที่เรียกสั้น ๆ ว่า ‘มนุษย์เป็ด’