จากข้อมูลสถิติสภาพพื้นที่ป่าไม้ ปี พ.ศ. 2566 ของกรมป่าไม้ เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2565 พบว่าประเทศไทยมีพื้นที่ป่าไม้ลดลงกว่า 317,819 ไร่ (ใกล้เคียงกับพื้นที่จังหวัดภูเก็ต)
- พระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ป่าไม้น้อยที่สุดในประเทศไทย อยู่ที่ 91.86 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 0.002 ของพื้นที่จังหวัด
- แม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ป่าไม้มากที่สุดในประเทศไทย อยู่ที่ 6,655,500.77 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 83.42 ของพื้นที่จังหวัด
- นนทบุรี ปทุมธานี และอ่างทอง ยังคงเป็นจังหวัดที่ไม่มีพื้นที่ป่าไม้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2551
แล้วพื้นที่ป่าไม้คืออะไร? ตามคำนิยามของกรมป่าไม้ ‘พื้นที่ป่าไม้’ หมายถึง พื้นที่ปกคลุมของพืชพรรณที่สามารถจำแนกได้ว่า เป็นไม้ยืนต้นปกคลุมเป็นผืนต่อเนื่องขนาดไม่น้อยกว่า 3.125 ไร่ และหมายรวมถึงทุ่งหญ้าและลานหินที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ที่ปรากฏล้อมรอบด้วยพื้นที่ที่จำแนกได้ว่าเป็นพื้นที่ป่าไม้ โดยไม่รวมถึงสวนยูคาลิปตัส หรือพื้นที่ที่มีต้นไม้ แต่ประเมินได้ว่าผลผลิตหลักของการดำเนินการไม่ใช่เนื้อไม้ ได้แก่ พื้นที่วนเกษตร สวนผลไม้ สวนยางพารา และสวนปาล์ม
ความสำคัญของพื้นที่ป่าไม้
พื้นที่ป่าไม้ถือว่ามีความสำคัญทางด้านสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก เพราะก่อให้เกิดระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ รวมไปถึงวัฏจักรน้ำและแหล่งน้ำ สร้างการหมุนเวียนพลังงานในระบบนิเวศ อีกทั้งป่าไม้ยังช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศ ดูดซับฝุ่นละอองและก๊าซเรือนกระจก
เปลี่ยนจากพื้นที่ป่าไม้เป็นพื้นที่ใช้สอย
ปัจจุบันพื้นที่ป่าไม้ยังคงมีแนวโน้มลดลง โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินจากพื้นที่ป่าไม้ไปเป็นพื้นที่ที่ไม่ใช่ป่าไม้ เช่น พื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ชุมชนและสิ่งปลูกสร้าง รวมไปถึงปัญหาไฟป่าก็นับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้พื้นที่ป่าไม้ลดน้อยลง
นอกจากนี้ นโยบายของภาครัฐที่ต้องการเร่งรัดพัฒนาประเทศในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ป่าไม้ของประเทศ โดยเฉพาะนโยบายส่งเสริมให้ปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น มันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด ทั้งยังแผนพัฒนาทางด้านคมนาคมเพื่อสร้างถนนหรือระบบขนส่ง ก็เอื้อให้เกิดการบุกรุกพื้นที่ป่ามากขึ้น
เป้าหมาย 40%
เมื่อปี พ.ศ. 2562 ร่าง ‘นโยบายป่าไม้แห่งชาติ’ ได้รับมติเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี มีใจความสำคัญ คือ ต้องการเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ให้สมดุล อย่างน้อยร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศ แบ่งเป็น
✔️ป่าอนุรักษ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 25
✔️ป่าเศรษฐกิจและป่าชุมชนไม่น้อยกว่าร้อยละ 15
ปัจจุบันเรามีพื้นที่ป่าทั่วประเทศ 31.47% ยังขาดอีก 26 ล้านไร่ จะบรรลุเป้าหมาย 40% ตามแผนนโยบาย แต่อุปสรรคสำคัญ คือ ประเทศไทยในทุกวันนี้ไม่มีพื้นที่โล่งกว้างแล้ว หลายพื้นที่มีคนอยู่อาศัยหรือเป็นเขตชุมชน การนำต้นไม้ไปปลูกเพื่อหวังเพิ่มพื้นที่ป่าไม้โดยไม่ให้มีคนเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นไปได้ยาก
สิ่งที่เราทำได้ คือ เพิ่มพื้นที่ป่าไม้ในชุมชน เพราะป่าล้วน ๆ เพิ่มได้ยากแล้ว ต้องเชื่อมคนกับป่าเข้าด้วยกัน
ความคืบหน้าล่าสุด
โดยเป็นแผนระยะยาวอย่างต่อเนื่อง ทว่า ปัจจุบันร่างนโยบายดังกล่าว ยังคงไม่มีการประกาศใช้ แต่ทาง ครม. ชุดปัจจุบัน (รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน) ได้รับทราบและขอให้มีการทบทวนตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว (เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 67)
เรายังต้องติดตามนโยบายป่าไม้แห่งชาติฉบับนี้อย่างใกล้ชิด เพราะสถานการณ์สภาพพื้นที่ป่าไม้ในไทยยังน่าเป็นห่วงอย่างมาก เนื่องจากมีแนวโน้มลดลง ผนวกกับสถานการณ์ Climate Change ที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในพื้นที่จังหวัดที่ไม่มีพื้นที่ป่าไม้หรือมีน้อย เช่น น้ำท่วมที่รุนแรงกว่าปกติ ภัยแล้ง ฝนไม่ตกตามฤดู อุณหภูมิความร้อนที่สูงขึ้น และฝุ่นควันจำนวนมาก
อ้างอิง :
https://forestinfo.forest.go.th/Content/file/policy/national_forest_policy.pdf
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/ratthapirak/article/download/58143/48040/135784
https://forestinfo.forest.go.th/Content.aspx?id=80
https://forestinfo.forest.go.th/Content/file/policy/national_forest_policy.pdf