เมี๊ยวๆๆๆ แง้วๆๆๆ ง้ากๆๆ ขอทักทายกันด้วยภาษาแมวหน่อยแล้วกันนะเจ้านุด! วันนี้เรามีโอกาสได้มาคุยกับคุณซัน จากแบรนด์ Hide & Seek ทรายแมวมันสำปะหลัง จากธรรมชาติ 100% และดีต่อสุขภาพเจ้านุดเจ้าแมว 100% แน่นอนน
จุดเริ่มต้นมาจากทาสแมว 3 คนที่ต้องการหาทางแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เหล่าทาสแมวต้องเจอ ไม่ว่าจะเป็นการกำจัดกลิ่น การกำจัดอึ๊และโรคภัยต่าง ๆ ที่หลายคนอาจลืมไป เลยนำมาสู่การเป็น Hide & Seek ทรายแมวย่อยสลายได้ในปัจจุบัน อีกทั้ง ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไทยทำ ไทยใช้ เมี๊ยวเจริ๊ญด้วย! ว่าแล้วก็ไปทำความรู้จัก Hide & Seek กันเลยยย (แคปชั่นอยู่ในใต้ภาพต่อ ๆ ไปเลยจ้าา)
ไหน ๆ ใครที่เคยใช้แล้วลองมาเล่าสู่กันฟังได้นะว่าเจ้าเหมียวถูกใจสิ่งนี้แค่ไหนนน ใครที่สนใจอยากอุดหนุนหรือสอบถามเพิ่มเติมก็ไปเมี๊ยว ๆ กันได้ที่เพจ Hide and Seek Cat Litter โลดด ที่สำคัญ Hide & Seek ก็ได้ร่วมประกวดรายการ ‘นิลมังกร’ The Reality รายการประกวดสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทยอยู่ด้วยนะ
จุดเริ่มต้น
คุณซัน อภินันท์ มหาศักดิ์สวัสดิ์ หนึ่งในผู้ริเริ่ม Hide & Seek เล่าว่า เขาและเพื่อน ๆ อีก 2 คน เริ่มคิดจากสิ่งที่คนเลี้ยงแมวต้องเจอ
อันดับแรกคือเรื่อง ‘กลิ่นอุจจาระปัสสาวะแมว’ โดยเฉพาะถ้าหากน้องแมวอึเสร็จแล้ว เราไม่รีบเก็บทันที ก็จะมีกลิ่นที่แรงมากที่จะพัดไปมาลอยอยู่ในห้องเรา ซึ่งทรายแมว Hide & Seek นี้ก็สามารถดูดซับกลิ่นเหล่านี้ได้ดีม้ากกก เพราะมีผลการทดลองมายืนยันแล้วว่าทรายมันสำปะหลังสามารถดูดซับแอมโมเนียที่ว่ามีกลิ่นแรง ๆ ได้กว่า 500% มากกว่าทรายจากสารอนินทรีย์ทั่วไป ดังนั้นแล้ว กลิ่นอึแมวแค่นี้(?)ก็ทำอะไรเราไม่ได้แน่นอน!
ปัญหาต่อไป ‘ความสะดวกสบายในการทิ้ง’ ตรงนี้ Hide & Seek ก็กล้ารับประกันว่าสามารถทิ้งลงชักโครกได้ เพราะทรายนี้จับตัวเป็นก้อนได้ไว ย่อยสลายได้ ง่ายต่อการทิ้งลงชักโครก เหมือนกับอุจจาระของเราทั่ว ๆ ไป ไม่ไปติดค้างหรือสะสมจนท่อตันได้ และไม่ไปเพิ่มปริมาณขยะ ซึ่งปกติปริมาณขยะจากอุจจาระแมวเฉพาะในประเทศนี้มีประมาณ 50 ตัน/ปี
ฝุ่นกับสุขภาพของน้องแมวและผู้เลี้ยง
ผู้เลี้ยงแมวจะรับรู้ดีว่าทรายแมวที่เป็นฝุ่นนั้นย่อมส่งผลกระทบต่อน้องแมวโดยตรงโดยเฉพาะในระยะยาว ทรายที่ผลิตโดยเบนโทไนท์นั้นเป็นแร่ธรรมชาติที่ขุดออกมาซึ่งไม่มีอันตรายใด ๆ แต่ย่อยสลายไม่ได้ รวมถึงมีสารตัวนึงที่เรียกว่า ‘ผลึกซิลิก้า’ ที่เป็นส่วนผสมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นฝุ่นที่ส่งผลอันตรายให้เกิดโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคไต ที่จะเกิดได้ทั้งในน้องแมวและผู้เลี้ยง โรคพวกนี้อาจจะไม่ได้ส่งผลเลยชัดเจนแต่มันคือปัญหาที่สะสม เพราะฉะนั้นใช้ไปช่วงปีสองปีแรกก็อาจจะคิดว่าไม่เป็นอะไร แต่สุดท้ายแล้วก็อาจทำให้น้องแมวของเราเสียสุขภาพและเสียค่าใช้ในการรักษาอีกด้วย
ทรายแมวนี้เลยมาแก้ปัญหาฝุ่นพวกนี้ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% แถมยังเป็นมิตรกับวัยรุ่นฟันน้ำนมและแมวที่ชอบเลียทรายด้วยนะ ต่างจากทรายแมวที่ทำจากทรายภูเขาไฟที่หากเจ้าเมี๊ยวสำนักไหนเลียหรือเผลอกินเข้าไป ก็อาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
วัตถุดิบ
ที่ Hide&Seek เลือกใช้คือ ‘มันสำปะหลัง’ ทรายแมวจากสารอินทรีย์ประเภทอื่น ๆ ในท้องตลาดก็จะมีเม็ดสน เต้าหู้ พวกนี้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ 100% หรืออย่างผักตบชวาที่มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ว่าสามารถนำมาผลิตทรายแมวได้นั้น ผลิตได้จริง แต่ยากต่อการนำมาผลิตจำหน่าย เพราะต้องมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่เพิ่มราคาต้นทุนเข้าไปอีกด้วย
ดังนั้น ทั้ง 3 จึงหันมาดูว่าวัตถุดิบอะไรที่จะหาได้ง่ายที่สุดและเอื้อต่อการผลิต เพราะเรื่องราคาจะเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์เกิดขึ้นจริงและอยู่ในท้องตลาดได้
สุดท้าย จึงหันมาดูมันสำปะหลังที่เป็นพืชเศรษฐกิจส่งออกเป็นอันดับ 1 ของไทยในระดับโลก นั่นแปลว่าตรงนี้เรามีทรัพยากรไม่จำกัดแน่นอน ซึ่งมันสำปะหลังเหล่านี้ Hide&Seek รับจากกลุ่มพ่อค้าคนกลางที่จะช่วยในขั้นตอนการควบคุมคุณภาพของมันสำปะหลังได้ เช่น การคัดเลือกหัวมันสำปะหลังที่เหมาะสม เพราะกลุ่มคนเหล่านี้มีความชำนาญจากประสบการณ์อยู่แล้ว ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีที่มีต้นทุนสูง ดังนั้น จึงช่วยในแง่ของคุณภาพและประหยัดต้นทุนไปได้
โมเดลธุรกิจ BCG
ทุกคนน่าจะเคยได้ยินโมเดลธุรกิจ ‘BCG’ โดยแต่ละตัวย่อนั้นหมายถึง B = Bio-economy เศรษฐกิจชีวภาพที่เน้นการรักษาสมดุลสิ่งแวดล้อม C = Circular Economy เศรษฐกิจหมุนเวียนที่เน้นลดปริมาณของเสียให้เกิดน้อยที่สุด และ G = Green Economy เศรษฐกิจมุ่งเน้นความยั่งยืนการที่ลดผลกระทบต่อโลก ทาง Hide&Seek เองก็มุ่งเน้นพัฒนาทรายแมวให้สอดคล้องกับแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนี้ด้วย
ในอนาคตทางแบรนด์ก็มีการวางแผนไว้ว่าจะรับจากเกษตรกรโดยตรงเหมือนกัน ซึ่งการนำมันสำปะหลังมาเป็นวัตถุดิบเช่นนี้จะเป็นผลดีต่อการส่งออกด้วย เพราะในปัจจุบัน ราคามันสำปะหลังที่ไทยส่งออกนั้นมีอัตราถูกลงเรื่อย ๆ จากการกดดันทางการค้าจาก จีนที่เป็นลูกค้าหลักของไทย ซึ่งถ้าหากเราสามารถเพิ่มมูลค่าของมันสำปะหลังได้มากขึ้นก็จะเป็นผลดีต่อการส่งออกในแง่อำนาจต่อรองทางการค้ามากขึ้น ทำให้จีนลูกค้าใหญ่กดราคามันสำปะหลังได้ยากกว่าเดิม
ซึ่งตอนนี้ก็จะเหลือ Circular Economy ที่ทางแบรนด์กำลังพยายามนำสิ่งที่เหลือใช้มาหมุนเวียนทำเป็นผลิตภัณฑ์ให้ได้มากขึ้น เช่น กากมันที่เหลือจากการผลิตแป้ง ถ้าสามารถนำมาผลิตเป็นทรายแมวได้ก็จะได้ผลิตภัณฑ์ที่ราคาถูกลงมาก ๆ แน่นอน
ใส่ใจตัวผู้ใช้และน้อง
Hide & Seek เริ่มต้นจากการใส่ใจตัวผู้ใช้และน้องแมว ตามสโลแกนเป็นมิตรต่อแมวผู้กลบ ทาสผู้เก็บ เลยล่ะ แต่ แต่! เราก็มองเห็นว่าจริง ๆ แล้ว Hide & Seek ก็เป็นผลิตภัณฑ์ทรายแมวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาก ๆ ด้วย เพราะสุดท้ายแล้ว การมีทรายแมวที่ย่อยสลายได้เช่นนี้ก็จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดการกลายไปเป็นขยะมูลฝอยที่ส่งกลิ่น และลดภาระให้พี่ ๆ เจ้าหน้าที่เก็บ เพราะเจ้าอึน้อยสามารถกำจัดตัวเองลงชักโครกได้เหมือนกับอึของคนเรานี่แหละ
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดน้องก็เปรียบเหมือนสมาชิกในครอบครัวเราคนหนึ่ง การเลือกสรรสิ่งที่ดีให้เข้าสมาชิกตัวน้อยจึงเป็นสิ่งที่ต้องทำอันดับต้น ๆ คุณซันเองก็พูดถึงเรื่องนี้ว่า เทรนด์การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงของผู้คนในปัจจุบันนั้น ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพของสัตว์เลี้ยงมากขึ้น มากกว่าเมื่อก่อนที่อาจจะมองว่าแค่ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่เราต้องให้ข้าวให้น้ำ แต่จริง ๆ แล้วมีหลายปัจจัยกว่านั้นมาก