ถ้าเชื้อราที่เปลี่ยนซากศพให้กลายเป็นซอมบี้มีอยู่จริง มันจะเป็นวันสิ้นโลกจริง ๆ ของเราไหม?

โลกกำลังร้อนขึ้น และเชื้อราที่เปลี่ยนให้ซากศพก็มีอยู่จริง มันอาจเป็นอนาคตที่เกิดขึ้นก็ได้ ซึ่งแนวคิดเหล่านี้ที่อยู่ในซีรีส์จริง ๆ นักวิทยาศาสตร์ก็เริ่มพิจารณาแล้ว

จากเกมและซีรีส์ ‘The Last of Us’ ถ้าเชื้อราที่เปลี่ยนซากศพให้กลายเป็นซอมบี้มีอยู่จริง มันจะเป็นวันสิ้นโลกจริง ๆ ของเราไหม?

“เชื้อราเริ่มควบคุมพฤติกรรมของมด บอกมันว่าให้ไปไหน ทำอะไร การติดเชื้อราประเภทนี้มีจริง แต่ไม่ใช่มนุษย์”

ดร.นิวแมน รับบทโดย จอห์น แฮนนาห์ (John Hannah) จาก The Mummy กล่าวเปิดซีรีส์ในตอนแรก

“แต่ถ้าเรื่องเปลี่ยนไปละ? ถ้าโลกอุ่นขึ้นมาอีกนิดหน่อยละ?” ประโยคท้ายของเขาได้ทิ้งคำถามปลายเปิดถึงชีวิตจริงที่โลกกำลังร้อนขึ้น และเชื้อราที่เปลี่ยนให้ซากศพก็มีอยู่จริง มันอาจเป็นอนาคตที่เกิดขึ้นก็ได้ ซึ่งแนวคิดเหล่านี้ที่อยู่ในซีรีส์จริง ๆ นักวิทยาศาสตร์ก็เริ่มพิจารณาแล้ว

ศาสตราจารย์ Charissa de Bekker แห่งมหาวิทยาลัย Central Florida กล่าวกับ National Geographic เมื่อปี 2019 ว่า “มันพูดถึงจินตนาการของทั้งนักวิทยาศาสตร์และประชาชนทั่วไปอย่างแน่นอน” มันมีเชื้อราตัวนึงที่มีชื่อว่า Ophiocordyceps unilateralis ได้เปลี่ยนมดที่แสนโชคร้ายบางตัวให้เป็นทาสของมัน

มดที่ติดเชื้อจะถูกบังคับให้ออกจากรังเพื่อไปสถานที่ที่ชื้นซึ่งเอื้อต่อการเจริญเติบโตของมัน จากนั้นก็ถูกบังคับให้แขวนตัวเองบนใบไม้รอความตาย ขณะเดียวกันก็กินอวัยวะภายในของมดไปด้วย ทั้งหมดนี้เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย นั่นคือเปลี่ยนให้มดเป็นแท่นปล่อยสปอร์แพร่กระจายพวกมันไปยังเหยื่อตัวต่อไป 

ทั้งหมดที่เชื้อราทำคือเพื่อจุดประสงค์เดียว นั่นคือขยายพันธุ์ตัวเองออกไปให้มากที่สุด เช่นเดียวกับเชื้อราใน ‘The Last of Us’ ที่เปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นแหล่งปล่อยสปอร์ รวมทั้งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างบ้าคลั่ง ถึงอย่างนั้นสำหรับคนในโลกแห่งความจริงแล้ว ไม่มีอะไรต้องให้กลัวเชื้อราสายพันธุ์ Ophiocordyceps นี้ 

เนื่องจากมันไม่ชอบสิ่งมีชีวิตที่ควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้ดี เช่น สัตว์เลือดอุ่น และระบบภูมิคุ้มกันของเราก็ทำงานได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกมันถึงโจมตีมด  แต่กระนั้นก็มีเชื้อราบางสายพันธุ์ที่แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายเราได้แล้ว นั่นคือ Candida auris รายงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้ชี้ให้เห็นว่าพวกมันมีจำนวนเพิ่มขึ้นใน 3 ทวีป เนื่องจากโลกร้อน

มันผ่านภูมิคุ้มกัน และวิวัฒนาการตัวเองให้ทนต่อความร้อน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญ และเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ รวมถึงเข้าไปยังร่างกายของสิ่งมีชีวิตอื่นได้มากมาย เช่น นก และนกสามารถบินไปได้ทั่วโลก โดยผู้ติดเชื้อจะมีอาการตั้งแต่ไม่มีเลย ไปจนถึงเสียชีวิต มีไข้ หนาวสั่น และเจ็บปวดตามร่างกาย

แต่ Candida auris นี้ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนให้คนตายให้กลายเป็นซอมบี้ อย่างไรก็ตาม โลกก็มีสิ่งประหลาดอีก นั่นคือเชื้อราที่ทำให้คุณประสาทหลอนได้อย่างเชื้อรา Claviceps purpurea ที่อาจทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการชักเกรงอย่างรุนแรง จากนั้นก็เกิดอาการคลุ้มคลั่ง คล้ายจิตเภทและประสาทหลอน 

ทีนี้ กลับมาสู่คำถามของ ดร.นิวแนมที่พูดเปิดซีรีส์ว่า “แต่ถ้าเรื่องเปลี่ยนไปละ? ถ้าโลกอุ่นขึ้นมาอีกนิดหน่อยละ?”ตอนนี้ยังไม่มีเชื้อราที่ทำให้เรากลายพันธุ์ แต่หากสักวันนึงโลกที่ร้อนขึ้นสามารถทำให้เชื้อรามีความสามารถทั้งหมดตามที่เราได้กล่าวไปข้างต้นล่ะ? 

“ผมไม่ต้องการอยู่ในจักรวาลนั้น”

Justin Cottle นักกายวิภาคศาสตร์จากสถาบันกายวิภาคศาสตร์มนุษย์กล่าวกับ IFLSCIENCE 

เราได้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ แล้วเช่นไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้เราต้องฉีดวัคซีนหลายเข็ม และเหตุการณ์เหล่านั้นก็คอยบอกเราว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นแบบนั้นกับเชื้อราไม่ได้เป็นศูนย์ 

“มันเป็นพื้นที่ที่น่าตื่นเต้นในการความเข้าใจของเราที่จะพิจารณาว่าปรสิตควบคุมโฮสต์ของพวกมันได้อย่างไร” Barrett Klein นักกีฏวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยวิสคอนซินกล่าวกับ National Geographic 

“ถ้าสัตว์ถูกชักจูงง่ายขนาดนั้น หมายความว่าอย่างไรเกี่ยวกับเรา”

ขอบคุณที่มา

  • IFLSCIENCE : “The Last Of Us” Fungus Is Real, Could It Cause A Pandemic?
  • National Geographic : How a parasitic fungus turns ants into ‘zombies’

Credit

Environman

Environman คือหนึ่งในสื่อออนไลน์ที่นำเสนอปัญหาสิ่งแวดล้อม เป้าหมายคืออยากทำให้โลกใบนี้ดีขึ้น ไม่เฉพาะการเป็นสังคมออนไลน์ที่แข็งแกร่ง แต่หวังให้ความรู้นำไปสู่การลงมือทำเพื่อเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้นได้จริง

Related posts

Sewing_thing รับซ่อมตุ๊กตาสานต่อความทรงจำ เย็บปักด้วยรัก ถักทอด้วยใจ

ผู้เติมเต็มความทรงจำที่ชำรุดผ่านการเย็บปักถักร้อยบนตุ๊กตาคอยซ่อมแซมส่วนที่สูญหายให้กลับมาเหมือนเก่า

การซื้อของชุมชนท้องถิ่น ของใกล้ตัวที่เรามองข้าม อาจช่วยโลกได้มากกว่าที่คิด

ยิ่งซื้อของในชุมชนท้องถิ่น ยิ่งมีส่วนในการลดมลพิษที่เกิดจากการขนส่ง ช่วยโลกทางอ้อม และยังสามารถพัฒนาชุมชนได้ในทางตรงด้วย

โลกจะเป็นอย่างไรในอีก 30 ปี หากเรายังนิ่งเฉย

โลกนั้นกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ระบบนิเวศที่สำคัญของโลกพังทลายลงจนไม่สามารถค้ำจุนชีวิต

‘Wastegetable’ ฟาร์มผักบนดาดฟ้าที่หาที่ไปให้กับขยะเศษอาหารใน กทม

ข้างบนห้าง Center One มีฟาร์มผักเล็ก ๆ ที่เปลี่ยนขยะเศษอาหาร 50-70 ตันต่อปีให้กลายเป็นปุ๋ยชั้นดีให้กับผักออร์แกนิกสำหรับคนในเมือง